STARK ส่งงบปี 65 ขาดทุนยับกว่า 6 พันล้าน พร้อมแก้งบปี 64 พลิกเป็นติดลบพบกลโกงแทบทุกจุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Saturday June 17, 2023 10:31 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ในที่สุด บมจ.สตาร์ค คอร์ปอเรชั่น (STARK) ก็ส่งงบปี 65 ได้ตามกำหนด แจ้งขาดทุนหนักกว่า 6.6 พันล้านบาท ขาดทุนต่อหุ้น 0.5393 บาท พร้อมทั้งแก้งบปี 64 เปลี่ยนเป็นขาดทุน 5,965 ล้านบาท ขาดทุนต่อหุ้น 0.501 บาท จากเดิมที่เคยแจ้งว่ากำไร 2.8 พันล้านบาท หลังจากผู้สอบบัญชีพบความผิดปกติหลายจุด

ขณะที่ผู้สอบบัญชีได้ตรวจสอบและรับรองงบการเงินโดยไม่แสดงความเห็น ด้วยเหตุที่ได้พิจารณาถึงสถานการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อความไม่แน่นอนต่อความสามารถในการเนินงานได้อย่างต่อเนื่อง (Going Concern) ของกลุ่มบริษัทฯ

ณ วันที่ 31 ธ.ค.65 กลุ่มบริษัทมีหนี้สินหมุนเวียนรวมสูงกว่าสินทรัพย์หมุนเวียนรวม 6,628 ล้านบาท และมีส่วนของเจ้าของติดลบ 4,404 ล้านบาท โดยหนี้สินหมุนเวียนส่วนใหญ่เป็นเจ้าหนี้การค้า เงินกู้ยืมระยะสั้น เงินกู้ยืมระยะยาวและหุ้นกู้ที่ถึงกำหนดชำระภายใน 1 ปี ซึ่งหนี้สินระยะสั้นส่วนหนึ่งเกิดจากการจัดประเภทเงินกู้ยืมระยะยาวเป็นเงินกู้ยืมระยะสั้น เนื่องจากอัตราส่วนทางการเงินบางรายการไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในสัญญาเงินกู้ระยะยาวและหนังสือชี้ชวนหุ้นกู้

นอกจากนี้ ในเดือน พ.ค.66 ที่ประชุมผู้ถือหุ้นกู้ หมายเลข STARK239A และ STARK249A ซึ่งมีเงินต้นคงค้างรวมเป็นจำนวน 944 ล้านบาท มีมติอนุมัติเรียกให้หนี้เงินต้นและดอกเบี้ยภายใต้หุ้นกู้ทั้งหมด ส่งผลกระทบอย่างมากต่อการใช้วงเงินทุนหมุนเวียนและจัดหาแหล่งเงินทุนเพิ่มเติมจากสถาบันการเงิน ทางกลุ่มบริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับเจ้าหนี้สถาบันการเงินเพื่อแก้ไขปัญหา หนี้สินของกลุ่มบริษัทฯ ทำให้เกิดความไม่แน่นอนที่เป็นสาระสำคัญ ซึ่งอาจเป็นเหตุให้เกิดข้อสงสัยต่อความสามารถในการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องของกลุ่มบริษัทฯ

บริษัทยังรายงานสรุปผลการตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษ (special audit) ระยะแรกว่า บริษัท ไพร้ซวอเตอร์เฮาส์คูเปอร์ เอบีเอเอส จำกัด ทำการตรวจสอบครอบคลุมรายการผิดปกติที่เกี่ยวข้องบัญชีลูกหนี้การค้าที่ได้รับหนังสือยืนยันยอด (A/R confirmation) ที่แตกต่างกัน เงินจ่ายล่วงหน้าค่าสินค้าที่จำนวนเงินสูงผิดปกติ เอกสารแจ้งหนี้ (invoices) ที่มีมูลค่าและจำนวนมากเป็นพิเศษในช่วงสิ้นงวด สินค้าคงคลังสูญหาย และรายงานวิเคราะห์อายุลูกหนี้ที่ไม่ถูกต้อง

(ก) ยอดขายที่ผิดปกติผู้ตรวจสอบพิเศษตรวจพบรายการขายผิดปกติ 202 รายการ คิดเป็นมูลค่าขาย 8,063 ล้านบาทและ 3,593 ล้านบาท ในปี 65 และ 64 ตามลำดับ ตรวจพบจากการสอบยืนยันยอดที่ถูกต้องกับลูกค้า การตรวจสอบการรับชำระเงิน ลักษณะการจ่ายเงินที่ไม่ปกติ การปลอมแปลงชื่อผู้จ่ายเงิน และการจ่ายเงินจากบัญชีของอดีตเจ้าหน้าที่ของบริษัทแทนลูกค้า

(ข) มียอดสินค้าคงเหลือที่ผิดปกติ พบว่า ณ วันสิ้นงวด มีรายการสินค้า (stock items) ประกอบด้วย รายการสินค้าระหว่าง ทำ (WIP) วัตถุดิบ (RM) และสินค้าสำเร็จ (FG) มียอดติดลบในระบบสารสนเทศ (ERP) ของบริษัท 3,140 รายการ

(ค) รายงานวิเคราะห์อายุลูกหนี้ถูกจัดทำอย่างไม่ถูกต้อง โดยเมื่อทำรายงานวิเคราะห์อายุลูกหนี้จากข้อมูลในระบบ SAP เปรียบเทียบกับรายงานวิเคราะห์อายุลูกหนี้ที่ทางฝ่ายจัดการ (เดิม) ส่งให้ผู้ตรวจสอบบัญชี พบว่า มีการคำนวณระยะเวลาคงค้าง (outstanding days) ที่แตกต่างกัน ส่งผลทำให้อายุของลูกหนี้ในทุกระยะเวลา (aging range) ในรายงานเดิมต่ำกว่าหรือระยะคงค้างน้อยกว่าความเป็นจริง และเมื่อสอบทานย้อนกลับพบว่าความผิดปกติดังกล่าวได้เกิดขึ้นในทุกไตรมาสของปี 65 ที่ผ่านมา

(ง) เงินจ่ายล่วงหน้าค่าสินค้า (advance payments) ผิดปกติ เงินจ่ายล่วงหน้าค่าสินค้า ณ วันที่ 31 ธ.ค.65 พบว่า บริษัทได้จ่ายเงินค่าซื้อสินค้าล่วงหน้าโดยการโอนเงินผ่านบัญชีธนาคารกสิกรไทย ผู้ขายวัตถุดิบในต่างประเทศ (key RM vendor/supplier) ใน สกุลเงินบาท เป็นเงินถึง 7,976 ล้านบาท ซึ่งเป็นยอดที่ผิดปกติเป็นอย่างมาก เนื่องจาก ในอดีตย้อนหลัง 5 ปีที่ผ่านมา บริษัทไม่เคยจ่ายเงินค่าสินค้าล่วงหน้ามากเช่นนี้มาก่อน

*เปิดข้อมูลโกงผ่าน บ.ย่อย

รายงานของผู้สอบบัญชีระบุว่า ณ วันที่ 31 ธ.ค.65 บริษัทมีผลการดำเนินงานขาดทุนสุทธิ 15,134 ล้านบาท และขาดทุนสะสม 14,999 ล้านบาท กลุ่มกิจการมีผลขาดทุนสุทธิรวม 6,651 ล้านบาท และขาดทุนสะสมรวม 10,379 ล้านบาท มีหนี้สินหมุนเวียนรวมสูงกว่าสินทรัพย์หมุนเวียนรวมจำนวน 6,628 ล้านบาท และส่วนของเจ้าของรวมติดลบ 4,404 ล้านบาท หนี้สินหมุนเวียนรวมดังกล่าวส่วนใหญ่ประกอบด้วย เจ้าหนี้การค้า เงินกู้ยืมระยะสั้นจากสถาบันการเงิน ตั๋วสัญญาใช้เงิน จำนวน 897 ล้านบาท

ในระหว่างการปฏิบัติงานตรวจสอบงบการเงินรวมของกลุ่มกิจการในปี 65 พบประเด็นผิดปกติต่าง ๆ ในงบการเงินของ บริษัท เฟ้ลปส์ ดอด์จ อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) จำกัด และบริษัท อดิสรสงขลา จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ที่ได้ลงบันทึกรายการบัญชีที่ขัดต่อข้อเท็จจริงและเป็นจำนวนเงินที่มีนัยสำคัญอย่างมาก เป็นเหตุที่แสดงถึงพฤติการณ์อันควรสงสัยในเรื่องการดำเนินงานของกลุ่มกิจการซึ่งไม่เป็นไปตามปกติธุรกิจ รายละเอียดดังต่อไปนี้

1.ความผิดปกติในงบการเงินของ เฟ้ลปส์ ดอด์จ ณ วันที่ 31 ธ.ค.65 มียอดลูกหนี้การค้าคงค้างเป็นจำนวนมาก ซึ่งเฟ้ลปส์ ดอด์จ ได้ออกเอกสารขายโดยไม่มีการจัดส่งสินค้าให้แก่ลูกค้าจริง ทำให้มีการรับรู้รายได้จากการขายและลูกหนี้การค้าสูงเกินความเป็นจริง 5,005 ล้านบาทในปี 65 รายได้จากการขายและลูกหนี้การค้า (สุทธิจากภาษีขาย) สูงเกินความเป็นจริง 923 ล้านบาทในปี 64 และรายได้จากการขายและลูกหนี้การค้า (สุทธิจากภาษีขาย) สูงเกินความเป็นจริง 97 ล้านบาท ก่อนปี 64

รายการขายหลายรายการให้แก่ลูกหนี้การค้าหลายราย รวม 1,890 ล้านบาท ซึ่งบันทึกภายในเดือน ธ.ค.65 ซึ่งโดยปกติแล้ว เฟ้ลปส์ ดอด์จ จะให้กำหนดระยะเวลาในการชำระหนี้ (credit terms) 60 ถึง 90 วัน แต่รายการที่ไม่เป็นไปตามปกติ เฟ้ลปส์ ดอด์จ ได้ออกเอกสารขายโดยไม่มีการจัดส่งสินค้าให้แก่ลูกค้าจริง ซึ่งส่งผลให้มีการรับรู้รายได้จากการขายและลูกหนี้การค้าในปี 65 สูงเกินจริงเป็นจำนวนเงิน 1,890 ล้านบาท นอกจากนี้เงินก็ไม่ได้มาจากลูกหนี้การค้าแต่ละรายจริง แต่รับมาจากบริษัท เอเชีย แปซิฟิก ดริลลิ่ง เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่เกี่ยวข้องกับผู้ถือหุ้นรายใหญ่รายหนึ่ง และ บริษัท ไทย เคเบิ้ล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของกลุ่ม

เฟ้ลปส์ ดอด์จ ได้จ่ายภาษีขายให้แก่กรมสรรพากรแล้วสำหรับรายการขายที่ไม่มีการจัดส่งสินค้าให้แก่ลูกค้าจริง ซึ่งทำให้ต้องมีการบันทึกค่าใช้จ่ายจากการตัดจำหน่ายลูกหนี้การค้าในส่วนของภาษีขายที่เกี่ยวข้องกับรายการขายที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริงจำนวน 569 ล้านบาท 35 ล้านบาท และ 7 ล้านบาท ในปี 65 ปี 64 และก่อนปี 64 ตามลำดับ

รายการจ่ายเงินล่วงหน้าค่าสินค้าให้แก่บริษัทคู่ค้าของ เฟ้ลปส์ ดอด์จ 3 ราย เป็นจำนวนเงินรวม 10,451 ล้านบาท (คิดเป็น 65% ของยอดซื้อทองแดงและอลูมิเนียมทั้งปี) เกิดขึ้นในช่วงระหว่างเดือน พ.ย.-ธ.ค.65 โดยปกติแล้ว เฟ้ลปส์ ดอด์จ จะทำการสั่งซื้อสินค้าจากคู่ค้าโดยการเปิด Letter of Credit (L/C) โดยไม่ต้องจ่ายเงินค่าสินค้าล่วงหน้า รายการนี้จึงไม่เป็นไปตามปกติ และยังพบว่ามีการจ่ายเงินออกไปจริง แต่มิได้เป็นการจ่ายเงินให้แก่บริษัทคู่ค้า ข้อเท็จจริงปรากฎว่าเป็นการโอนเงินออกไปให้บริษัท เอเชีย แปซิฟิก ดริลลิ่ง เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด

เฟ้ลปส์ ดอด์จ ได้รับชำระเงินจากลูกหนี้การค้าต่างประเทศหลายราย ในระหว่างเดือน ธ.ค.65 ซึ่งบันทึกทางบัญชีระบุว่าเป็นลูกหนี้การค้าที่เกิดจากการขายสินค้าในปี 64 เป็นจำนวนเงิน 2,034 ล้านบาท และในเดือนเดียวกัน เฟ้ลปส์ ดอด์จ ยังได้รับเงินอีก 4,052 ล้านบาท โดยระบุว่าเป็นการรับเงินชำระจากการขายสินค้าของบริษัท Thinh Phat Cables Joint Stock Company (TPC) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ เฟ้ลปส์ ดอด์จ ที่จดทะเบียนในประเทศเวียดนาม อย่างไรก็ตาม ไม่มีหลักฐานที่น่าเชื่อถือที่จะสนับสนุนว่ามีรายการขายเกิดขึ้นจริง และจากเส้นทางการรับชำระเงินได้แสดงว่าเป็นการโอนเงินจากบริษัท เอเชีย แปซิฟิก ดริลลิ่ง เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่เกี่ยวข้องกันกับผู้ถือหุ้นรายใหญ่รายหนึ่ง

รายการสินค้าคงเหลือที่แสดงในรายงานสินค้าคงเหลือ ณ วันที่ 31 ธ.ค.65 มีปริมาณสินค้าคงเหลือหลายรายการ (quantity) ติดลบ คิดเป็นเงินจำนวนรวม 1,375 ล้านบาท ซึ่งเกิดจากผลแตกต่างจากการตรวจนับสินค้าประจำปีที่เกิดก่อน ปี 65 ที่ยังไม่ได้ทำรายการปรับปรุงในรายงานทางบัญชี แต่อย่างไรก็ตาม ยังมิได้มีหลักฐานที่ชัดเจนว่าข้อผิดพลาดดังกล่าวจะต้องกระจายไปปรับปรุงงบการเงินรวมย้อนหลังหรือไม่แต่อย่างไร

เฟ้ลปส์ ดอด์จ บันทึกกลับรายการต้นทุนขายและสินค้าคงเหลือสำหรับรายการขายที่ไม่มีการจัดส่งสินค้าให้แก่ลูกค้าจริง เป็นจำนวนเงิน 2,222 ล้านบาท และ 91 ล้านบาท ในปี 64 และก่อนปี 64 ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม ปริมาณสินค้าคงเหลือภายหลังการปรับปรุงมียอดปริมาณสูงกว่ายอดปริมาณทางบัญชีในอดีตอย่างมีสาระสำคัญ จึงรับรู้ผลแตกต่างดังกล่าวเป็นค่าใช้จ่ายทั้งจำนวน

รายงานอายุลูกหนี้ (aging report) ณ วันที่ 31 ธ.ค.65 และ ปี 64 ถูกจัดทำอย่างไม่ถูกต้อง เนื่องจากข้อมูลวันที่ในใบแจ้งหนี้และ/หรือวันครบกำหนดชำระในรายงานอายุลูกหนี้ไม่สอดคล้องกับใบกำกับการขาย (sales invoice) มีผลต่อการคำนวนค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตของลูกหนี้การค้า ซึ่งมีผลทำให้การบันทึกค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตจากลูกหนี้การค้าต่ำไปหรือกำไรสุทธิสูงไป 65 ล้านบาท และ 729 ล้านบาท ในปี 65 และปี 64 ตามลำดับ

2.รายละเอียดของรายการผิดปกติในงบการเงินของ บริษัท อดิสรสงขลา จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ดำเนินธุรกิจการให้บริการด้านทรัพยากรบุคคล โดยมีรายได้จากการให้บริการจากการจัดส่งพนักงานไปทำงานให้แก่ลูกค้าในกลุ่มปิโตรเลียม และในปี 65 มีลูกหนี้การค้าจากการให้บริการด้านทรัพยากรคงค้างเป็นจำนวนมาก ซึ่ง อดิสรสงขลา บันทึกรายได้โดยไม่มีหลักฐานสนับสนุนที่น่าเชื่อถือในการให้บริการ ซึ่งมีผลให้มีการรับรู้รายได้จากการให้บริการและลูกหนี้การค้าสูงเกินจริง 394 ล้านบาท 240 ล้านบาท และ 411 ล้านบาท ในปี 65 ปี 64 และก่อนปี 64 ตามลำดับ

รายการค่าใช้จ่ายค้างจ่ายสำหรับค่าแรงของพนักงานที่ให้บริการแก่ลูกค้าในปี 65 มีจำนวน136 ล้านบาท โดยเมื่อเทียบกับปี 64 ซึ่งมีจำนวน 18 ล้านบาท การเพิ่มขึ้นดังกล่าวเป็นการเพิ่มขึ้นอย่างมีสาระสำคัญและไม่ได้สอดคล้องกับจำนวนพนักงานที่ลดลง อดิสรสงขลา บันทึกค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับค่าแรงพนักงานในปี 65 สูงเกินจริงเป็นจำนวน 99 ล้านบาท

อดิสรสงขลา ยังแสดงรายการส่วนลดจากการให้บริการเป็นรายการหักในรายได้จากการให้บริการในปีปัจจุบัน จึงทำให้ต้องมีการปรับแก้ไขตัวเลขเปรียบเทียบให้สอดคล้องกับการแสดงรายการในปีปัจจุบัน โดยการปรับปรุงรายได้จากให้บริการกับต้นทุนการให้บริการในงบการเงินรวมปีก่อนจำนวน 21 ล้านบาท

3. รายละเอียดของรายการผิดปกติในงบการเงินของ บริษัท ไทยเคเบิ้ล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ได้ออกเอกสารขายโดยไม่มีการจัดส่งสินค้าให้แก่ลูกค้าจริง ซึ่งส่งผลให้มีการรับรู้รายได้จากการขายและลูกหนี้การค้า (สุทธิจากภาษีขาย) สูงเกินความเป็นจริงเป็นจำนวน 600 ล้านบาท ในปี 64 และรายได้จากการขายและลูกหนี้การค้า (สุทธิจากภาษีขาย) สูงเกินความเป็นจริง 89 ล้านบาท ก่อนปี 64

ไทยเคเบิ้ล ได้ออกเอกสารขายโดยไม่มีการจัดส่งสินค้าให้แก่ลูกค้าจริง ซึ่งส่งผลให้มีการรับรู้รายได้จากการขายสูงเกินความเป็นจริงและเจ้าหนี้การค้าต่ำกว่าความเป็นจริง ผู้บริหารจึงบันทึกรับรู้เจ้าหนี้การค้าบริษัทที่เกี่ยวข้องกัน เป็นจำนวน 121 ล้านบาท ในปี 64 และเป็นจำนวน 39 ล้านบาท ก่อนปี 64 ไทยเคเบิ้ล ได้จ่ายภาษีขายให้แก่กรมสรรพากรแล้วสำหรับรายการขายที่ไม่มีการจัดส่งสินค้าให้แก่ลูกค้าจริง ซึ่งทำให้ต้องมีการบันทึกค่าใช้จ่ายจากการตัดจำหน่ายลูกหนี้การค้าในส่วนของภาษีขายที่เกี่ยวข้องกับรายการขายที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริงจำนวน 50 ล้านบาท และ 9 ล้านบาท ในปี 64 และก่อนปี 64 ตามลำดับ


แท็ก บัญชี  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ