นางสุวรรณา ขจรวุฒิเดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.มีนา ทรานสปอร์ต (MENA) เปิดเผยว่า ต้นไตรมาส 3/66 บริษัทจะเริ่มขยายการให้บริการขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภคแก่กลุ่มค้าปลีก ซีเจ มอร์ , ร้านค้าถูกดี มีมาตรฐาน รวมถึงสินค้าในเครือ บมจ.คาราบาว กรุ๊ป (CBG) ภายใต้การดำเนินงานของบริษัท ทีดีเอ็ม ลอจิสติกส์ จำกัด (TDM)
ปัจจุบัน บริษัทมีกองรถในเครือ TDM แล้ว 178 คัน และในอนาคตอาจจะขยายบริการไปสู่การขนส่งสินค้าข้ามแดน คาดการณ์รายได้ในปีแรกของ TDM ที่ประมาณ 400-500 ล้านบาท ซึ่ง MENA จะได้ส่วนแบ่งรายได้ตามสัดส่วนการถือหุ้น 35% ส่งผลให้ในปี 66 รายได้ของบริษัทจะเติบโตได้ตามเป้าหมายไม่ต่ำกว่า 15%
ส่วนบริการขนส่งคอนกรีตผสมเสร็จด้วยรถมิกเซอร์ (Mixer) และรถเทรลเลอร์ (Trailer) ในปี 66 บริษัทยังคงตั้งเป้าขยายกองรถอีก 100 คัน โดยครึ่งปีแรกบริษัทส่งรถเข้าทำงานแล้ว 73 คัน และไตรมาส 3/66 มีแผนที่จะส่งมอบรถเพิ่ม 22 คัน อีกทั้งมีแผนที่จะเพิ่มรถขนส่งสินค้าควบคุมอุณหภูมิประมาณ 5-10 คัน ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจา คาดว่าจะเริ่มให้บริการได้ในไตรมาส 3/66 อย่างแน่นอน ซึ่งอาจจะมีการปรับขยายฝูงรถเพิ่มขึ้นในช่วงไตรมาส 4/66
นอกจากนี้ บริษัทได้ส่งมอบรถมิกเซอร์ หรือรถโม่ผสมคอนกรีต ให้แก่ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย (ท่าหลวง) จำกัด หรือแบรนด์ "ซีแพค (CPAC)" และ บริษัท ปูนซีเมนต์เอเชีย จำกัด หรือแบรนด์ "บัวคอนกรีต (BUA Concrete)" ถือเป็นการเสริมทัพความพร้อมด้านกองยานยนต์ให้กับกลุ่มลูกค้าผู้ผลิตคอนกรีต เพื่อรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งในปีนี้ บริษัทฯ มีแผนทยอยส่งมอบรถมิกเซอร์ที่เหลืออีกกว่า 40 คันให้แล้วเสร็จภายในไตรมาส 2/66
นางสุวรรณา กล่าวว่า ไม่ได้กังวลเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลล่าช้า เพราะไม่ได้กระทบกับบริษัท เนื่องจากโครงการภาครัฐที่บริษัทให้บริการในปัจจุบัน 3 โครงการ ได้แก่ โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ โครงการทางพิเศษสายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวน และโครงการก่อสร้างทางรถไฟ สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ เป็นโครงการที่มีการเบิกจ่ายงบประมาณไปแล้ว 30-70% และกำลังดำเนินการก่อสร้างอยู่ บริษัทมองว่าในช่วงที่เป็นสุญญากาศนั้นด้วยแรงขับเคลื่อนจากภาคเอกชนและโครงการเดิมของภาครัฐที่มีอยู่แล้วจะทำให้รายได้ของบริษัทเป็นไปตามเป้า
"บริษัทเชื่อว่าภาพรวมธุรกิจและผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ครึ่งปีหลังนี้ จะยังคงเติบโตได้อย่างโดดเด่นต่อเนื่อง จากครึ่งปีแรก เนื่องจากมีปัจจัยสนับสนุน จากอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ที่มีแนวโน้มฟื้นตัว ซึ่งผลให้ธุรกิจขนส่งสินค้าทุกประเภทขยายตัวตามไปด้วย ขณะที่การร่วมมือกับกลุ่มพันธมิตรรายใหญ่ช่วยสนับสนุนการเติบโต ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีต่อภาพรวมธุรกิจของบริษัทฯ ที่จะช่วยสนับสนุนให้รายได้ และกำไรปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ" นางสุวรรณา กล่าว