เมื่อต้นเดือนมิถุนายน 2566 ที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) หรือ SEC ของสหรัฐฯ พิจารณาสินทรัพย์ดิจิทัลที่ถูกซื้อขายบนศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศสหรัฐฯ ว่ามีสถานะหรือลักษณะเป็น "หลักทรัพย์" ที่ต้องอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ก.ล.ต. ส่งผลให้ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลกลายเป็นผู้เสนอขายหลักทรัพย์และต้องถูกกำกับดูแลโดย ก.ล.ต. ไปโดยปริยายเช่นกัน
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Binance US ซึ่งเป็นศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลสาขาของ Binance ที่นักลงทุนชาวไทยรู้จักกันดี ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนร่วมในการเสนอขายหลักทรัพย์ที่ไม่ได้จดทะเบียน ทั้งเหรียญ BNB และ Binance USD รวมถึงผลิตภัณฑ์ Simple Earn และ BNB Vault และโปรแกรม Staking ที่เข้าข่ายเป็นหลักทรัพย์และการให้บริการเกี่ยวกับหลักทรัพย์
และจนถึงตอนนี้มีเหรียญที่ ก.ล.ต. มีความเห็นว่าเป็นหลักทรัพย์และต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ทั้งผู้ออกเหรียญในตลาดแรก และผู้ทำธุรกรรมต่าง ๆ ในตลาดรอง เช่น การซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลนั้น ๆ บนศูนย์ซื้อขายดิจิทัลมากกว่า 60 เหรียญ มูลค่ารวมกว่า 1.15 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐที่ไม่ได้จดทะเบียนกับ ก.ล.ต. ก่อนการเสนอขาย และอาจส่งผลให้ผู้ที่เกี่ยวข้องต้องจ่ายค่าปรับจำนวนมหาศาล รวมถึงต้องนำเหรียญออกจากศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลทั้งหมด
แต่อย่างไรก็ตาม กรณีระหว่าง Ripple กับ ก.ล.ต. มีการเปิดเผยเอกสารสำคัญเกี่ยวกับความเห็นของอดีตผู้อำนวยการฝ่ายการเงินองค์กร ของ ก.ล.ต.สหรัฐอเมริกา หรือเอกสาร Hinman ที่มีความเห็นว่า ETH ไม่เป็นหลักทรัพย์ ทำให้เหรียญต่าง ๆ ที่สร้างบน Ethereum Blockchain หรือที่มีลักษณะใกล้เคียงกันก็อาจจะได้รับอานิสงส์หลุดพ้นจากการเป็นหลักทรัพย์ ส่งผลต่อแนวทางที่ ก.ล.ต. กำลังดำเนินการเพื่อกำกับดูแลธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลต่าง ๆ ด้วยการพิจารณาว่าเหรียญต่าง ๆ เป็นหลักทรัพย์ที่หน่วยงานของตนมีอำนาจกำกับดูแลนั้นอาจไม่ประสบความสำเร็จ ซ้ำยังจะเป็นการทำให้ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลพัฒนาได้ช้าลง หรือที่เลวร้ายที่สุดการตัดสินใจ "เล่นแรง" ของ ก.ล.ต. สหรัฐอเมริกาในครั้งนี้อาจส่งผลให้ประเทศสหรัฐอเมริกาสิ้นสุดสถานะผู้นำด้านเทคโนโลยีและตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล
ท้ายที่สุดเรายังคงต้องเห็นการต่อสู้ระหว่างหน่วยงานกำกับดูแล กฎหมาย และตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลทั่วโลก ไม่เพียงเฉพาะในประเทศสหรัฐอเมริกา ถึงความจำเป็นและขอบเขตในการกำกับดูแลตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีการพัฒนาอย่างรวดเร็วต่อไป
นายปรุงศักดิ์ เชาวน์ชาติ ทนายความหุ้นส่วนบริหาร กลุ่มสำนักงานกฎหมายอเบอร์
อนุญาโตตุลาการผู้เชี่ยวชาญด้านสินทรัพย์ดิจิทัล ประจำสถาบันอนุญาโตตุลาการ (THAC)