นายศิลปรัตน์ วัฒนเกษตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บีจี คอนเทนเนอร์ กล๊าส (BGC) กล่าวว่า เนื่องจากสถานการณ์ราคาพลังงานและราคาวัตถุดิบที่มีความผันผวน บริษัทจึงวางแผนเพิ่มประสิทธิภาพบริหารจัดการต้นทุนเพื่อลดผลกระทบและรักษาอัตรากำไรขั้นต้นให้อยู่ในระดับที่ดี
บริษัทมุ่งเน้นการบริหารต้นทุนให้สอดคล้องสถานการณ์ เพิ่มความยืดหยุ่นในการเลือกใช้พลังงานทางเลือกอย่างเหมาะสม ปรับสูตรการผลิตสินค้าเพื่อควบคุมต้นทุนการผลิตต่อหน่วยโดยไม่กระทบกับคุณภาพการผลิต นำเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาปรับใช้ในกระบวนการผลิตภายในโรงงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ เข้าร่วมโครงการประหยัดพลังงานกับ ESCO (บริษัทจัดการพลังงาน) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานไฟฟ้าและลดต้นทุนพลังงานไฟฟ้าทั้งระบบ รับมือกับความไม่แน่นอนของต้นทุนการผลิตในปัจจุบัน
ขณะเดียวกันบริษัทยังได้ศึกษาแผนการนำพลังงานความร้อนที่เหลือจากการผลิต มาผลิตไอน้ำเพื่อจำหน่าย และปรับปรุงระบบการผลิตที่ดำเนินการอยู่แล้วให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาความคุ้มค่าในการลงทุนโครงการเพิ่มเติมจากโรงงาน 2 แห่ง
ส่วนสถานการณ์ราคาวัตถุดิบที่ใช้ผลิตบรรจุภัณฑ์ในเดือนเม.ย.-พ.ค. ที่ผ่านมามีแนวโน้มเริ่มทยอยปรับลดลง ยกเว้นกลุ่มเศษแก้วที่ราคายังทรงตัวอยู่ในระดับสูง เนื่องจากความต้องการใช้ในการผลิตเพื่อส่งออกเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามคาดว่าราคาเศษแก้วในปัจจุบันเป็นจุดสูงสุดและไม่น่าจะปรับขึ้นมากกว่านี้แล้ว ส่วนราคาโซดาแอช (โซเดียมคาร์บอเนต) และพลังงานเริ่มปรับลดลง ขณะที่ค่าไฟฟ้าน่าจะผ่านจุดสูงสุดแล้วหลังจากราคาก๊าซธรรมชาติทยอยลดลง
"บริษัทฯ มุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพบริหารต้นทุน แต่หากราคาวัตถุดิบและราคาพลังงานกลับมาปรับเพิ่มขึ้นอีกครั้ง อาจพิจารณาปรับขึ้นราคาสินค้าให้สอดคล้องกับต้นทุน ทั้งนี้บริษัทฯ คาดการณ์รายได้ไตรมาส 2/66 จะเติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อนตามเป้าหมาย อย่างไรก็ตาม กำไรยังถูกกดดันจากต้นทุนการผลิตโดยรวมที่อยู่ในระดับสูง" นายศิลปรัตน์ กล่าว