นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก (GBS) ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้พักฐาน มองกรอบการเคลื่อนไหว 1,520-1,570 จุด หลังผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และประธานเฟดสาขาริชมอนด์แสดงความเห็นสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปเพื่อกดเงินเฟ้อให้ลงมาสู่ที่ระดับเป้าหมาย 2% เช่นเดียวกับความเห็นของนักเศรษฐศาสตร์ที่คาดการณ์ว่ามีโอกาสมากขึ้นที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งจากการขยายวงจรการคุมเข้มนโยบายการเงินครั้งประวัติศาสตร์ออกไปจนถึงเดือนก.ย.เพื่อให้อัตราเงินเฟ้อลดลงสู่ระดับ 2%
ส่วนสถานการณ์ทางการเมือง และการจัดสรรงบประมาณ ด้านนายอนุสรณ์ ธรรมใจ อดีตกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลัง ประเมินว่ารัฐบาลใหม่ปรับงบประมาณปี 2567 สนองรัฐสวัสดิการได้แค่ 2 แสนล้านบาท และขาดอีกอย่างน้อย 4.5 แสนล้านบาท ซึ่งต้องจับตาการจัดหางบประมาณในส่วนดังกล่าวหลังจัดตั้งรัฐบาล
ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จับตาปรากฏการณ์ เอล นีโญ (El Nino) ที่ได้เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการแล้วในฝั่งของมหาสมุทรแปซิฟิก กังวลว่าจะส่งผลกระทบเศรษฐกิจภาพรวม ส่งผลให้ราคาอาหาร-เงินเฟ้อเพิ่มสูง และภาคเกษตรเสียหายหนัก 4-6 หมื่นล้านบาท และการประกาศขาดทุนของ บมจ.สตาร์ค คอร์ปอเรชั่น (STARK) เป็นปัจจัยกดดันการลงทุนในหุ้นขนาดกลางและเล็กมีการปรับตัวในช่วงสั้น
ทั้งนี้ ยังมีปัจจัยที่ต้องจับตาในประเทศ อาทิ สัปดาห์ที่ 4 กระทรวงพาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศ, การค้าชายแดนและการค้าผ่านแดน, สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) แถลงยอดผลิตและส่งออกรถยนต์, สัปดาห์ที่ 5 สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค, ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) แถลงดัชนีอุตสาหกรรม และ วันที่ 13 ก.ค. เป็นกำหนดวันสุดท้ายที่กกต.รับรองผลเลือกตั้ง
ส่วนปัจจัยต่างประเทศที่ต้องจับตา
20 มิ.ย. ธนาคารกลางจีนประกาศอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) สหรัฐ รายงานตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนพ.ค.
วันที่ 21 มิ.ย. ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยรายงานการประชุม มิ.ย. นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดแถลงนโยบายการเงินรอบครึ่งปีต่อสภาคองเกรส
วันที่ 22 มิ.ย. ประธานเฟดจะแถลงนโยบายการเงินของสหรัฐต่อคณะกรรมการธนาคารของวุฒิสภา สหรัฐรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ดุลบัญชีเดินสะพัด Q1/66 ยอดขายบ้านมือสองเดือนพ.ค. ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนพ.ค. และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์
วันที่ 23 มิ.ย. อียู รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นเดือนมิ.ย. สหรัฐ รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต-ภาคบริการขั้นต้นเดือนมิ.ย.
ดังนั้น แนะนำกลยุทธ์การลงทุนในหุ้นที่เข้าคำนวณ SET 50 และ SET 100 ในงวดครึ่งปีหลัง 66 นี้ โดยหุ้นที่มีการนำเข้า SET50 ได้แก่ TLI, WHA หุ้นที่มีการนำออกได้แก่ JMT, JMART ส่วน SET 100 หุ้นที่มีการนำเข้าได้แก่ AURA, BTG, ERW, MBK, SNNP, STEC, TASCO, TLI ขณะที่หุ้นที่นำออกได้แก่ BEC, EPG, JAS KEX, ONEE, QH, RBF, SINGER
ส่วนทิศทางการลงทุนในทองคำ นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล. โกลเบล็ก ประเมินราคาทองคำในสัปดาห์นี้นักลงทุนต้องติดตามความเคลื่อนไหวระหว่างญี่ปุ่นและจีน เนื่องจากปัจจุบันญี่ปุ่นได้จัดหาอาวุธให้กับสหรัฐเพื่อช่วยเหลือยูเครน สร้างความไม่พอใจให้กับรัสเซียและจีนอย่างมาก ทำให้ปัญหาทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น เป็นตัวหนุนราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย อีกทั้งช่วงปลายสัปดาห์มีประกาศตัวเลขดัชนีฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตและภาคบริการของสหรัฐ
โดยฝ่ายวิจัยประเมินว่าราคาทองคำยังสามารถทรงตัวในระดับสูงได้ เนื่องจากตลาดกังวลการเกิดสงคราม ด้านยอดผู้ขอรับสวัสดิการของสหรัฐสูงกว่าคาดการณ์เป็นระยะเวลา 2 สัปดาห์ ทั้ง 2 ปัจจัยข้างเป็นปัจจัยหลักหนุนราคาทองคำ ระหว่างสัปดาห์หากราคาทองคำปรับตัวลงไม่หลุดแนวรับบริเวณ 1,930 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ คำแนะนำทยอยเข้าซื้อสะสม