นางสมหะทัย พานิชชีวะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.อมตะ วีเอ็น (AMATAV) เปิดเผยว่าว่า ในปีนี้ตั้งเป้ายอดขายที่ดินในเวียดนามอยู่ที่ 60-70 เฮกเตอร์มากกว่าปีก่อน ซึ่งปัจจุบันยอดขายที่รอโอนเกินเป้าไปแล้ว บริษัทอยู่ในระหว่างเร่งดำเนินการเพื่อส่งมอบให้ลูกค้าภายในปีนี้ และราคาขายที่ดิน โดยเฉพาะทางภาคเหนือของเวียดนามก็ปรับตัวดีขึ้นมากกว่าช่วงแรกที่เปิดขาย
นอกจากนี้ ในไตรมาส 4/66 บริษัทจะเปิดขายโรงงานสำเร็จรูปให้เช่า (RBF) ในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ เบียนหัว (ACBH) ดังนั้น บริษัทจึงมั่นใจว่าแนวโน้มครึ่งปีหลังรายได้เติบโตสูงกว่าครึ่งปีแรกแน่นอน
ขณะที่บริษัทตั้งงบลงทุนในปีนี้รวม 4,500 ล้านบาท แบ่งเป็นงบลงทุนการก่อสร้างนิคมและสาธารณูปโภคโดยเฉพาะภาคเหนือและภาคใต้ของเวียดนาม ซึ่งจะมีพัฒนาโรงไฟฟ้าเป็นของบริษัทเอง รวมทั้งวางท่อส่งน้ำเพื่อใช้ในพื้นที่นิคมฯ และการซื้อที่ดินเพิ่มเติมเพื่อขยายพื้นที่จองนิคมอุตสาหกรรมฯ
นางสมหะทัย กล่าวถึงปัญหาการขาดแคลนไฟฟ้าทางภาคเหนือของเวียดนามว่า เนื่องจากมีภาคอุตสาหกรรมที่เข้ามาลงทุนมากขึ้น ในพื้นที่ดังกล่าว ขณะที่การผลิตไฟฟ้าทางภาคเหนือเพิ่มก็ล่าช้าตามการจัดทำแผนพัฒนาผลิตไฟฟ้า (PDP) ฉบับใหม่ที่ล่าช้ามาประมาณ 1 ปี แต่ปัจจุบันทางการเวียดนามได้ขอให้โรงงานทางภาคเหนือลดการผลิตลง 20% เพื่อรอการผลิตไฟฟ้าเพิ่ม ดังนั้น จึงมั่นใจว่าเวียดนามจะสามารถแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ให้ผ่านไปได้
บริษัทมองว่าเวียดนามเป็นประเทศที่มีอัตราการเจริญเติบโตที่ดี อีกทั้งยังมีความแข็งแรงทางการเมือง นอกจากนี้เมื่อวันที่ 5 พ.ค.66 เวียดนามได้เริ่มใช้แผนพัฒนาพลังงานแห่งชาติฉบับใหม่ที่สนับสนุนการใช้พลังงานสีเขียว (Green Energy) และพลังงานหมุนเวียน (Renewable energy) มากขึ้น ซึ่งจะช่วยกระตุ้นอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศได้สูงถึง 7% และสามารถดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ เช่น สิงคโปร์ ญี่ปุ่น จีน ไต้หวัน ฮ่องกง และเกาหลีใต้ เข้ามาลงทุนในเวียดนามมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโตมากขึ้นในอนาคตด้วย
อย่างไรก็ตาม ไตรมาส 1/66 บริษัทมีผลขาดทุนสุทธิ 77.82 ล้านบาท พลิกจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 474.57 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทยังไม่มีการรับรู้รายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์และการขายโรงงานสำเร็จรูปในงวดนี้