บมจ.เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น (SC) เปิดเจรจาซื้อเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ในสหรัฐเพิ่มอีก 1-2 แห่งในบอสตัน โดยเจรจาเสร็จสิ้นไปแล้ว 1 แห่ง คาดว่ากระบวนการซื้อจะแล้วเสร็จในช่วงครึ่งปีหลังของปีนั้ ส่วนอีกหนึ่งแห่งยังอยู่ระหว่างการเจรจา เมื่อสามารถปีดดีลทั้งหมดได้จะทำให้บริษัทมีเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ในสหรัฐเพิ่มเป็น 5 แห่ง
นายอรรถพล สฤษฎิพันธาวาทย์ ประธานเจ้าหน้าที่ด้านสนับสนุนองค์กร SC กล่าวว่า บริษัทได้ใส่เงินลงทุนไปในการลงทุนที่สหรัฐรวมแล้ว 61.55 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากเป้าหมาย 100 ล้านเหรียญสหรัฐ นอกเหนือจกาซื้อเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ในบอสตัน 3 แห่งซึ่งมีอัตราการเข้าพัก 93% แล้ว ยังมีการลงทุนในกองทุนที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐ 1 กองทุน วงเงิน 4.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ขณะที่ธุรกิจโรงแรม SC ได้เปิดตัวโรงแรมแห่งแรกในประเทศไทย คือ YANH ราชวัตร ไปเมื่อเดือนมี.ค. 66 ทำอัตราการเข้าพักเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ปัจจุบันอัตราเข้าพักฉลี่ย (OCC) อยู่ที่ 50% ส่วนโรงแรมแห่งที่ 2 จะอยู่บนทำเลสุขุมวิท และแห่งที่ 3 จะอยู่ในโครงการมิกซ์ยูสที่พัทยา คาดว่าจะเริ่มพัฒนาในช่วงปี 69-70
ด้านธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัยพ์เพื่อขาย ในปัจจุบันยังสามารถทำยอดขายและการโอนได้ดีอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโครงการแนวราบระดับหรู ซึ่งบริษัทเป็นผู้นำตลาด ยังสร้างยอดขายและรายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยในไตรมาส 2/66 บริษัทได้เปิดโครงการแนวราบใหม่ทั้งหมด 7 โครงการ ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า และเป็นปัจจัยหนุนที่ช่วยผลักดันผลการดำเนินงานไตรมาส 2/66 ให้สูงกว่าไตรมาส 1/66
ส่วนโครงการคอนโดมิเนียม ในไตรมาส 2/66 ได้เปิดโครงการ COBE รัชดา-พระราม 9 มูลค่า 6 พันล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการในระดับราคาที่จับจ้องได้ และเจาะกลุ่มคนเพิ่งเริ่มทำงาน ราคาเริ่มต้น 100,000 บาท/ตารางเมตร เป้าหมายยอดขายในช่วงเปิดขายที่ 1 พันล้านบาท และคาดว่าทั้งปี 66 จะทำยอดขายได้เกิน 1.6 พันล้านบาท
นายอรรถพล กล่าววว่า แผนงานในครึ่งปีหบังจะเปิดโครงการใหม่อีก 16 โครงการตามแผน มูลค่ารวมกว่า 2 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นแนวราบ 15 โครงการ และคอนโดมิเนียม 1 โครงการ โดยบริษัทยังคงมั่นใจว่ายอดขายจะทำได้ตามเป้าหมาย 3 หมื่นล้านบาท และรายได้ที่ 2.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งคาดว่าในครึ่งปีแรกยอดขายและรายได้มีโอกาสทำได้เกือบ 50% ของเป้าหมายทั้งปีที่ตั้งไว้
นอกจากนี้ บริษัทยังจัดหาซื้อที่ดินเพิ่มเพื่อมารองรับในธุรกิจคลังสินค้าอีก 150,000 ตารางเมตร จากปีก่อนที่พัฒนาไป 16,000 ตารางเมตร และจะมีการจัดหาที่ดินเพื่อรองรับการพัฒนาในปี 67 อีก 130,000 ตารางเมตร โดยที่วางแผนมีพื้นที่คลังสินค้าแตะ 1 ล้านตารางเมตรภายในปี 73