นายณัฐพงศ์ หิรัณยศิริ ประธานฝ่ายบริหาร บริษัท MTS GOLD GROUP เปิดเผยว่า ปัจจุบันนักลงทุนไทยให้ความสนใจการลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์ และดัชนีหุ้นตลาดเอเชียเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นสินค้าที่มีโอกาสเติบโตสูงและสร้างผลตอบแทนในระดับที่ดี ตามอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศในกลุ่มเอเชีย MTS Capital เล็งเห็นถึงโอกาสการลงทุนนี้ และอยากเพิ่มประสบการณ์การลงทุนโดยตรงด้วยตัวเองให้กับนักลงทุนไทย จึงพัฒนาและขยายช่องทางการลงทุน เพื่อสร้างโอกาสและผลตอบแทนจากการลงทุนในดัชนีตลาดชั้นในของเอเชีย รวมถึงสินค้าอื่นๆ ที่มีความหลากหลายและน่าสนใจ
SGX ถือเป็นตลาดหลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายหุ้นและอนุพันธ์ระหว่างประเทศมากติดอันดับต้นๆในเอเชีย และมีบทบาทสำคัญในการเชื่อมต่อระหว่างนักลงทุนกับบริษัทที่มีศักยภาพในเอเชีย จึงเป็นความสำเร็จอีกก้าวหนึ่งของ MTS Capital ที่ไม่เคยหยุดพัฒนาเพื่อเชื่อมต่อการลงทุนสู่ตลาดโลก
MTS Capital ได้เปิดตัวสินค้าใหม่ ให้นักลงทุนได้ซื้อขายดัชนีหุ้นชั้นนำในตลาดเอเชีย ได้แก่ ดัชนี China A50 ของจีน, ดัชนี Nikkei 225 ของญี่ปุ่น และ ดัชนี Nifty 50 ของอินเดีย เพื่อเปิดโลกการลงทุนสู่ตลาดชั้นนำที่มีโอกาสในการเติบโตสูง นอกจากนี้ยังมีสินค้ากลุ่มเหล็กในตลาดจีนอย่าง SGX TSI Iron Ore CFR China และยางแผ่นรมควันในตลาดสิงคโปร์ (SGX Rubber) ให้นักลงทุนได้เลือกลงทุน ผ่านโบรกเกอร์ไทย โดยมีผู้แนะนำการลงทุนจาก MTS Capital ดูแลอย่างใกล้ชิด ซึ่งนักลงทุนสามารถเทรดในรูปแบบอนุพันธ์ ลงทุนได้ทั้งในภาวะตลาดขาขึ้นหรือขาลง
"MTS ได้เป็นโบรกเกอร์รายแรกที่ได้สิทธิ์เป็นตัวแทนซื้อขายสัญญาสินค้าอนุพันธ์ในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ (SGX) เอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ภายใต้การกำกับดูแลของ สำนักงาน ก.ล.ต. ซึ่งการร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นการเปิดโอกาสให้นักลงทุนไทย ก้าวสู่การซื้อขายผลิตภัณฑ์การลงทุนในตลาดชั้นนำของเอเชียได้สะดวก และง่ายมากขึ้น โดยนักลงทุนสามารถลงทุนด้วยราคา Real time อ้างอิงมาตรฐานจากตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ ที่มีสภาพคล่องสูง และสามารถซื้อขายได้เกือบ 24 ชม." นายณัฐพงศ์กล่าว
MTS Capital ตั้งเป้าความสำเร็จ สู่การเป็นโบรกเกอร์ไทย อันดับ 1 ในเอเชีย ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้ขยายการซื้อขายให้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งพัฒนาระบบการลงทุนให้มีความปลอดภัย เพิ่มความสะดวกให้กับนักลงทุนในทุกด้าน โดยได้ขยายตลาดไปสู่ระดับภูมิภาคทั้งตลาดจีน ฮ่องกง รวมถึงตลาดอนุพันธ์ชั้นนำระดับโลกอย่าง CME ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้รับการยอมรับจากนักลงทุนเป็นอย่างมาก ด้วยชื่อเสียง และประสบการณ์ในนามกลุ่มบริษัทแม่ทองสุกที่ดำเนินธุรกิจมาแล้วมากกว่า 70 ปี อีกทั้งยังได้รับการรับรอง และมีใบอนุญาตการันตีมาอย่างต่อเนื่องจึงทำให้บริษัท MTS Capital ได้รับความเชื่อถือจากนักลงทุนอย่างล้นหลาม
อย่างไรก็ตาม MTS Capital ยังมีแผนในการพัฒนาแบบบูรณาการอย่างต่อเนื่อง ครบทุกด้านครอบคุมทุกความต้องการของนักลงทุน ทั้งในการเพิ่มศักยภาพ และขีดความสามารถในการแนะนำ ให้ความรู้ด้านการลงทุน รวมถึงพัฒนาช่องทางการลงทุนให้มีความหลากหลายตอบโจทย์ทุกความต้องการ ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมการลงทุนสมัยใหม่ เช่น ระบบ New Trade Gold Online รูปแบบใหม่ บริการซื้อขายทองออนไลน์ผ่าน Smart Phone ใช้งานง่าย และสะดวกมากยิ่งขึ้น รวมถึงระบบแจ้งเตือนราคาอย่าง MTS Plus ที่ได้รับการพัฒนาให้ใช้งานสะดวก และเป็นประโยชน์ต่อนักลงทุนมาอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ MTS Capital ได้ตั้งเป้าบัญชีการซื้อขายไว้ที่ 20,000 บัญชี ภายใน 1 ปี โดยนักลงทุนสามารถเปิดบัญชีออนไลน์เพียงบัญชีเดียว และเทรดได้ครบทุกสินค้าใน MTS โดยเริ่มต้นลงทุนเทรดต่างประเทศกับ MTS เพียงประมาณ 35,000 บาท