นายอรรถพล ตั้งคารวคุณ ประธานเจ้าหน้าที่บัญชีและการเงิน บมจ.สีเดลต้า (DPAINT) กล่าวว่า การต่อยอดธุรกิจของบริษัทจากธุรกิจสีไปสู่ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง ยังคงเป็นกลยุทธ์หนึ่งที่บริษัทให้ความสำคัญในการต่อยอดการเติบโตทั้งการร่วมทุน (JV) และการเข้าซื้อกิจการ (M&A) เพื่อเข้ามาเสริมศักยภาพของธุรกิจ และขยายตลาดใหม่ๆ โดยในช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้มีการศึกษาและเจรจาดีลในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจหลักของบริษัท คือ สีทาบ้าน เช่น วัสดุก่อสร้างและตกแต่ง เคมีภัณฑ์ก่อสร้าง และสีอุตสาหกรรม เป็นต้น ซึ่งคาดว่าจะมีความชัดเจนออกมาในช่วงปลายปี 66 หรือต้นปี 67
ขณะที่แนวโน้มของผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/66 คาดว่าจะยังเห็นทิศทางที่ดีต่อเนื่องจากไตรมาส 1/66 ซึ่งเป็นผลมาจากการปรับกลยุทธ์ของบริษัทที่หันมาเน้นสัดส่วนกลุ่มลูกค้าโครงการเพิ่มมากขึ้น ทำให้สัดส่วนกลุ่มลูกค้าโครงการในไตรมาส 1/66 เพิ่มขึ้นเป็น 15% จากสิ้นปีก่อนที่ 5% ทำให้บริษัทสามารถขยายฐานลูกค้าได้มากขึ้น และสามารถเข้าถึงลูกค้าได้โดยตรง อีกทั้งยังสามารถนำเสนอสินค้าอื่นๆให้กับลูกค้าเพิ่มเติมได้ ทำให้สามารถสร้างโอกาสในการเพิ่มยอดขายให้กับบริษัท
นอกจากนี้ยังคงเดินหน้าในการขยายเครื่องผสมสีของบริษัทให้เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นการขยาย Point of sale ให้กระจายและเข้าถึงลูกค้ามากขึ้น โดยในไตรมาส 1/66 ขยายเพิ่ม 40 เครื่อง จากสิ้นปี 65 ที่มี 617 เครื่อง และยังคงเดินหน้าขยายจนถึงสิ้นปีเป็นจำนวน 867 เครื่อง เพื่อให้เพิ่มโอกาสในการขาย
ส่วนการขยายไลน์สินค้าของบริษัทยังคงเน้นไปที่การขยายกลุ่มสีระดับพรีเมียม และอัลตร้าพรีเมียม ซึ่งเป็นกลุ่มสีที่ให้มารืจิ้นที่สูง และเป็นการยกระดับแบรนดฺของสีเดลต้า เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าใหม่ๆที่มีกำลังซื้อ และต้องการใช้สีที่มีคุณภาพ พร้อมกับการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เป็นสินค้าในกลุ่มเคมีภัณฑ์ก่อสร้าง ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า โดยที่ในปี 66 วางแผนออกสินค้าใหม่ในกลุ่มเคมีภัณฑ์ก่อสร้าง 30 รายการ ปัจจุบันได้ออกสินค้าใหม่ไปแล้ว 20 รายการ และบริษัทยังมั่นใจยอดขายทั้งปี 66 จะทำได้ตามเป้าหมายเติบโต 20-30%
นายอรรถพล กล่าวอีกว่า บริษัทยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับ บมจ.สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น (STARK) รวมถึงบมจ.ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) (TOA) แม้ว่าจะเป็นคนในตระกูลตั้งคารวคุณเหมือนกัน เพราะคณะกรรมการบริษัทและผู้บริหารของ DPAINT เป็นคนละชุดกัน และไม่ได้มีธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับกลุ่ม TOA แต่อย่างใด ซึ่งที่ผ่านมามีผู้ถือหุ้นและนักลงทุนต่างเข้ามาถามในเรื่องดังกล่าวเป็นจำนวนมาก จึงได้มีการชี้แจงให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้อง