นายอภิชาติ ชโยภาส กรรมการผู้จัดการ บมจ.ท่าเรือราชาเฟอร์รี่ (RP) กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทวางเป้าหมายผลประกอบการพลิกฟื้นมีกำไร จากปีก่อนที่มีผลขาดทุนราว 75 ล้านบาท แม้ว่าไตรมาส 1/66 ยังมีผลขาดทุนราว 6 ล้านบาท แต่ก็ขาดทุนลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนถึง 26.76% เนื่องจากผู้โดยสารเพิ่มขึ้นจากนโยบายเปิดประเทศหลังสถานการณ์โควิดผ่านพ้นไปแล้ว
อีกทั้งบริษัทยังควบคุมต้นทุนค่าใช้จ่ายในการนำเข้าอะไหล่เรือ โดยพยายามสต๊อกสินค้าให้น้อยที่สุด และในระยะยาวมีแผนที่จะขายเรือเก่าซื้อเรือใหม่ ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเดินเรือให้ดีขึ้นกว่าปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลัง คือสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครนที่ยังยืดเยื้อ ซึ่งส่งผลกับนักท่องเที่ยวชาวยุโรปที่เข้ามาในประเทศไทย โดยช่วงที่ผ่านมาจำนวนนักท่องเที่ยวตามเกาะต่าง ๆ ในพื้นที่ที่บริษัทให้บริการเรือท่องเที่ยวมีน้อยลงผิดปกติ
แต่บริษัทเชื่อว่าผลประกอบการในแต่ละไตรมาสจากนี้จะปรับตัวดีขึ้นตามสถานการณ์ภาพรวม และปีนี้บริษัทจะรับมอบเรือที่สั่งซื้อจากจีนเข้ามาอีก 1-2 ลำ เชื่อว่าจะทำให้ผลประกอบการบริษัทจะพลิกฟื้น แต่จะเร็วเท่าไรขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการขนส่งเรือจากจีนมายังประเทศไทย
นายอภิชาติ ยังเปิดเผยความคืบหน้าการก่อสร้างท่าเรือเกาะพะลวยใน จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมสิ่งปลูกสร้างและส่วนประกอบอื่น ได้แก่ ท่าเทียบ อาคารเช็คอิน/พักคอย ห้องจำหน่ายตั๋ว และลานจอดรถว่า ขณะนี้คืบหน้ากว่า 85% อยู่ระหว่างรอเรือที่บริษัทสั่งซื้อจากจีนเพื่อนำมาให้บริการในเส้นทางใหม่ คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ราวสิ้นเดือน ก.ค.66 เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจท่องเที่ยวในช่วงปลายปีถึงต้นปีหน้า
สำหรับอุบัติเหตุเรือเฟอร์รี่ข้ามฟากของบริษัทล่มระหว่างเดินทางจากอำเภอดอนสักไปอำเภอเกาะสมุยเนื่องจากเหตุคลื่นลมแรงในเดือน เม.ย.ที่ผ่านมานั้น ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างเร่งดำเนินการแก้ปัญหาเพื่อให้สามารถซ่อมแซมเสร็จทันช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวรอบต่อไปหรือเดือน ส.ค.ที่จะถึงนี้