กลุ่มบริษัท คริปโตมายด์ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (Cryptomind Mind) ผู้ประกอบธุรกิจให้คำปรึกษาด้านบล็อกเชนและการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล ประกอบไปด้วย บริษัท เมอร์เคิล แคปปิตอล จำกัด ผู้จัดการเงินทุนสินทรัพย์ดิจิทัล. และ บริษัท คริปโตมายด์ แอดไวเซอรี่ จำกัด บริการที่ปรึกษาสินทรัพย์ดิจิทัล จัดงาน "Cryptomind Mid-year Investment Forum" เปิดทิศทางการลงทุนครึ่งปีหลัง 2566 รับ Bitcoin Halving และความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล กุญแจไขวิธีหาโอกาสในการลงทุน วิเคราะห์ร่วมกับสถานการณ์ปัจจุบันของตลาดการเงินโลก รวมถึงวิธีกระจายความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ และวิธีสร้างผลตอบแทนอย่างยั่งยืน
สรุปเนื้อหาจาก Forum
- ตัวเลขของนักเทรดในประเทศไทยลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่หากเทียบกับประเทศอื่น ยังนับว่าเป็นตัวเลขที่ค่อนข้างสูง และผลประกอบการของ Exchange ในไทยพบว่า BITUB ซึ่งมีส่วนแบ่งตาดมากสุด กำไรลดลงกว่า 86.6% มาอยู่ที่ 341 ล้านบาท จากที่เคยทำได้ในปีก่อนที่ 2,545 ล้านบาท ส่วน Satang Pro ผลประกอบการขาดทุน 73 ล้านบาท
- สถานการณ์ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลในไทยมีเรื่องน่าจับตา คือ "ผู้เล่นหน้าใหม่" ทั้ง TDX จากฝั่งตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งจะเปิดขาย Investment Token และ Utility Token คาดว่าจะลิสต์ RealX เป็นโทเคนแรก ส่วน GULF-Binance ที่เตรียมจะเปิดให้บริการในไตรมาส 4/66 จะมีแค่บริการ SPOT Trading เท่านั้น และไม่มีการบังคับให้คนที่ใช้ Binance Global มาใช้ Binance TH ถือเป็นโอกาสของนักลงทุนไทนที่มีตลาดมากขึ้น เป็นทางเลือกของนักลงทุน
- ฮ่องกงประกาศตัวอย่างชัดเจนเป็น Crypto Hub ของโลก และเปิดให้นักลงทุนรายย่อยเข้าไปเทรดอย่างถูกกฎหมาย
- ในฝั่งของสถานการณ์คริปโทฯ โลก และกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ตั้งแต่ต้นปีจะสังเกตว่ามีข่าวร้ายมาอย่างต่อเนื่อง ทั้ง Binance US และ Coinbase พร้อมนาย Gary Gensler ประธาน ก.ล.ต.สหรัฐ กล่าวชัดเจนว่าสหรัฐไม่ต้องการคริปโทฯ อีกต่อไป ซึ่งขัดแย้งกับบริษัทจัดการลงทุนต่าง ๆ ที่พยายามเข้ามาในโลกคริปโทฯ โดยการขอใบอนุญาต Bitcoin SPOT ETF โดยรวมนับว่าเทรนด์ตอนนี้ถือเป็นขาขึ้นค่อนข้างสูง ประกอบกับเทคโนโลยี Bitcoin Layer 2, Ethereum Layer 2 และบล็อกเชนใหม่อื่น ๆ
- จากปี 2022 ที่อัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับสูง ทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีนโยบายปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง เพื่อทำการคุมเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ท่าทีของนาย Jerome Powell ประธานเฟด ประกอบกับตัวเลขของ CPI Data หาก CPI ยังออกมาสูง คาดว่าเฟดอาจปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งภายในปีนี้ ขณะเดียวกันนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าเฟดจะเริ่มลดดอกเบี้ยในไตรมาส 2/67 ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับที่คาดว่าจะเกิด Bitcoin Halving
- หากนำตัวเลขข้อมูลจาก iShares q1/23 U.S. ETF มี AUM ประมาณ 7 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ทาง Merkle คาดการณ์สัดส่วน ETF หุ้นเหลือเพียง 70% จาก 77% ในปี 65 และปรับเพิ่ม Other ETF เป็น 10% โดย Alternative ETF ดั้งเดิม (ทองคำ แร่เงิน และ น้ำมัน ) มีสัดส่วน 2% และที่เหลือ 8% อยู่ในกองทุน Bitcoin ETF ซึ่งจะมีเม็ดเงินมากเกือบ 500 พันล้านเหรียญสหรัฐ เข้ามาไล่ซื้อ Bitcoin จนจุดประกายขาขึ้นรอบใหม่ให้สูงกว่าจุดสูงสุดเดิมที่ 69,000 เหรียญสหรัฐ
- ในส่วนของ Trend การลงทุนในครึ่งปีหลังทาง Merkle ยังคงแนะนำให้ซื้อสะสม BTC โดยประเมินจากสถิติช่วงก่อนและหลัง Halving 12 เดือน พบว่า 1.ช่วงก่อน Halving ราคา Bitcoin จะไม่ได้ปรับตัวขึ้นสูงมากเหมาะจะเป็นโซนซื้อสะสมสำหรับนักลงทุนระยะยาว 2.หลังจาก Halving 6 เดือน ซึ่งจะเป็นช่วงปลายปี 67 ตลาดจะเริ่มปรับตัวขึ้นอย่างรุนแรง โดยมีโอกาสที่ราคาจะขึ้นมาทำ All time High สูง และเป็นจุดที่นักลงทุนควรจะทยอยขายทำกำไร
- ทาง Merkle แชร์กลยุทธ์ที่น่าสนใจ คือการลงทุนโดยการใช้ MVRV ซึ่ง Forum รอบที่แล้วแนะนำว่าเป็นจุดเข้าซื้อที่ดี โดย ณ ขณะนั้นราคา Bitcoin อยู่ระดับ 28,000-29,000 เหรียญสหรัฐ MVRV เป็นตัวเลขที่นักวิเคราะห์ Bitcoin นิยมใช้ ซึ่งตัวเลขนี้สามารถบ่งบอก ระดับกำไรหรือขาดทุนของนักลงทุนในตลาดได้ โดยสามารถประยุกต์ได้ดังนี้
การใช้ MVRV สำหรับลงทุนระยะยาว : หากตัวเลข MVRV ต่ำกว่า 1 คือ ทยอยซื้อสะสม หากมากกว่า 2 คือ ทยอยขาย
การใช้ MVRV สำหรับนักลงทุนระยะสั้นหรือเทรดตามเทรนด์ ให้ใช้เส้นค่าเฉลี่ย ema100 ประกอบการตัดสินใจโดยหากเทรนด์เป็นขาลง ให้จับสัญญาณขายเมื่อค่า MVRV วิ่งขึ้นมาชนเส้น EMA100 แต่หากเป็นเทรนด์ขาขึ้นให้ซื้อตอนที่ค่า MVRV ปรับลดลงมาที่เส้น ema100
- ปีนี้ใครลงทุนหุ้นไทยเป็นหลักและไม่ได้กระจายมาลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลอย่าง BTC อาจมีผลตอบแทนที่ต่างกับพอร์ตที่มีการลงทุนใน Bitcoin ถึง 10 เท่า
- Merkle เปิดสถิติการลงทุน DCA เดือนละ 200 USD เป็นเวลา 5 ปี 3 สินทรัพย์ ซึ่งมีผลลัพธ์ดังนี้
1. หากเลือก DCA ใน ETH จะได้กำไรกว่า 400%
2. หากเลือก DCA ใน BTC จะได้กำไรกว่า 160%
3. หากเลือก DCA ใน SET จะขาดทุนกว่า 4%
นายสัญชัย ปอปลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร คริปโตมายด์ แอดไวเซอรี่ เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดคริปโทฯ ได้รับความนิยมและความสนใจจากนักลงทุนในประเทศไทยเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมีลักษณะที่น่าสนใจและมีโอกาสในการลงทุนที่มากกว่าสกุลเงินอื่น ๆ
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีการเติบโตของตลาดคริปโทฯ อย่างรวดเร็ว โดยผู้คนในประเทศไทยมีการรับรู้ถึงความเป็นมาของเทคโนโลยีบล็อกเชนและการใช้งานคริปโทฯ มากขึ้นและขยายตัวในวงกว้าง ส่งผลให้แนวโน้มของสินทรัพย์เกิดใหม่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว อีกทั้งมีแหล่งให้ศึกษาหาความรู้ และมีองค์กรที่สนับสนุนคริปโทฯ และเทคโนโลยีบล็อกเชนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลจึงควรให้ความสำคัญกับการศึกษาและการทำความเข้าใจในเทคโนโลยีและโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงการวิเคราะห์ตลาดและการติดตามข่าวสารที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด
ด้านนายพีรพัฒน์ หาญคงแก้ว ประธานเจ้าหน้าที่ด้านการลงทุน คริปโตมายด์ แอดไวเซอรี่ กล่าวเสริมว่า ทิศทางการลงทุนช่วงครึ่งปีหลัง 2566 นั้นมีท่าทีที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เพราะท่าทีของอเมริกาที่แม้ว่าทาง SEC จะมีการฟ้อง Coinbase และ Binance US แต่ในแวดวงผู้ประกอบการกลับมีทิศทางตรงกันข้าม ซึ่งลงท้ายด้วยการที่สถาบันการเงินจำนวนมาก โดยเฉพาะ BlackRock ที่ทำการยื่นขอ SPOT Bitcoin ETF นั้นมี AUM มากกว่ามูลค่าตลาด Cryptocurrency ถึง 9 เท่า การแบ่งสัดส่วนเงินที่บริหารเพียงน้อยนิดเข้าสู่ตลาดคริปโทฯ ก็เพียงพอให้ตลาด Crypto นั้นมีเม็ดเงินไหลเวียนเพิ่มขึ้นมหาศาล ยังไม่นับรวมสถาบันการเงินอื่น ๆ ที่ทำการยื่นขอใบอนุมัติ SPOT Bitcoin ETF เช่นกัน และถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงการยื่นขอใบอนุญาต ก็ทำให้เกิดทิศทางบวกต่อตลาดมากแล้ว
ในขณะเดียวกัน ฮ่องกงได้ประกาศการกำกับดูแลในการเป็น "Crypto Hub" ตามด้วยยุโรปที่มีการประกาศว่าจะมีการกำกับดูแลในปี 2024 นั้น เป็นการกดดันอเมริกาอยู่มากพอควร อย่างไรก็ตามในแง่ของปัจจัยเชิงลบนั้นสถานการณ์เงินเฟ้อยังต้องติดตามต่อไป เพราะตราบใดที่เงินเฟ้อไม่ลดก็จะยังมีแรงกดดันต่อตลาดอยู่ต่อเนื่อง
นายมานะ คานิโยว หัวหน้าฝ่ายบริหารงานขาย และพัฒนาผลิตภัณฑ์การลงทุน เมอร์เคิล แคปปิตอล กล่าวถึงการลงทุนในคริปโทฯ ช่วงดอกเบี้ยอยู่ในจุดพีคว่า เงินเฟ้อยังเป็นปัจจัยหลักในการตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ย ซึ่งมองว่า "เราอยู่ในจุดซื้อที่เหมาะสม" หากพิจารณาจาก Business cycle เสริมมุมมองเกี่ยวกับ BTC Halving ในปี 2567 ว่า Bitcoin Halving จะเกิดขึ้นและรางวัลสำหรับการขุด Bitcoin จะลดลงครึ่งหนึ่งในเชิงสถิติ ซึ่งเหตุการณ์ Bitcoin Halving ที่ผ่านมานำไปสู่ตลาดขาขึ้นของ Bitcoin ทั้งนี้ Products ใหม่ถูกสร้างขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางความผันผวนของตลาด นอกจากนี้ การลงทุนควบคู่กันไประหว่างการลงทุนในหุ้น และคริปโทฯ มีโอกาสได้ผลตอบแทนที่สูงกว่า ซึ่งควบคู่กับความเสี่ยงที่สูงเช่นเดียวกัน ดังนั้น เพื่อให้ได้กำไรอย่างยั่งยืน จึงต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญให้ความรู้และคำแนะนำในการกระจายความเสี่ยง เพิ่มความปลอดภัยและโอกาสสร้างผลตอบแทนที่สูงขึ้น