นายกิตติ ตั้งศรีวงศ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ชโย กรุ๊ป (CHAYO) เปิดเผยว่า แนวโน้มรายได้จากการดำเนินงานไตรมาส 2/66 ยังสดใสและเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาส 1/66 ที่มีรายได้ 369.63 ล้านบาทและกำไรสุทธิ 118.28 ล้านบาท และมั่นใจว่าตลอดปี 66 รายได้จากการดำเนินงานจะเติบโตอย่างน้อย 25% ตามเป้าหมายที่วางไว้
ปัจจุบันธุรกิจของ CHAYO ยังเดินหน้าได้อย่างแข็งแกร่ง สามารถซื้อหนี้เข้ามาบริหารได้อย่างต่อเนื่อง และยังคงให้ความสนใจการลงทุนใหม่ๆ เพื่อเข้ามาช่วยต่อยอดธุรกิจหลัก ทั้งในรูปแบบการควบรวมกิจการ (M&A) และการร่วมทุน (JV) ซึ่งขณะนี้กำลังเจรจากับพันธมิตรสถาบันการเงิน คาดว่าจะได้เห็นข้อสรุปที่ชัดเจนภายในปีนี้
ส่วนประเด็นผลทางคดีที่มีผู้ร้องคัดค้านเพิกถอนผลการขายทอดตลาดสำหรับที่ดินหลักประกัน จ.พังงา หลังจากบริษัทฯ ได้ขายทอดตลาดผ่านกรมบังคับคดีไปเมื่อไตรมาส 1/2565 ที่ผ่านมา และมีผู้ประมูลไปด้วยราคา 900.80 ล้านบาท แต่มีผู้ร้องกรมบังคับคดีต่อศาลให้เพิกถอนผลของการขายทอดตลาดดังกล่าวนั้น (ศาลชั้นต้นและศาลอุทรณ์ ได้ยกคำร้องแล้ว) กำลังรอผลจากศาลฎีกา โดยคาดว่าจะทราบผลในไตรมาสที่ 3/66 นี้
สำหรับความคืบหน้าในการนำบริษัทลูก คือ บริษัท จำกัด เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) นั้น ขณะนี้ได้จัดตั้งบริษัทที่ปรึกษาทางการเงินเรียบร้อยแล้ว และคาดว่าสามารถนำบริษัทเข้าตลาด mai ได้ภายในกลางปี 67 ตามเป้าหมายที่วางไว้
"แนวโน้มการดำเนินงานในปี 66 นี้มั่นใจว่าจะเติบโตอย่างน้อย 25% ตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยเรายังซื้อหนี้เข้ามาบริหารได้อย่างต่อเนื่อง ส่วนกรณีที่ดิน จ.พังงา จะรู้ผลความคืบหน้าหรือความชัดเจนภายในไตรมาสที่ 3/66 นี้ ขณะที่การนำบริษัทย่อย ชโย แคปปิตอล เข้าตลาดหุ้นก็ยังเป็นไปตามแผน ขณะนี้ได้บริษัทที่ปรึกษาทางการเงินแล้ว และจะนำเข้าตลาด mai ในปี 67 ตามแผนที่วางไว้" นายกิตติ กล่าว