นายพันธ์ พะเนียงเวทย์ ผู้จัดการสำนักกรรมการผู้อำนวยการ บมจ.ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ (TFMAMA) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนการขายต่างประเทศโตเป็น 40% จากปัจจุบันอยู่ราว 25-30% ภายใน 2 ปี โดยมีความสนใจในตลาดแอฟริกา อเมริกาใต้ หรือแม้แต่ตลาดเดิมอย่างอเมริกา ยุโรป หลังจากมองตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในประเทศเริ่มตึงตัว อิงจากข้อมูลในอดีต ปริมาณการบริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ในรูปแบบซองและคัพ ของคนไทย เฉลี่ยอยู่ที่ 40 ต่อคนต่อปี และเมื่อปี 65 ปรับตัวขึ้นมาเฉลี่ยอยู่ที่ 52.3 ต่อคนต่อปี โดยจากนี้ก็คาดว่าอาจเพิ่มขึ้นได้ไม่เร็วเท่าเดิมแล้ว หรือโตได้อีกเล็กน้อย ขณะที่ในต่างประเทศยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก
ทั้งนี้บริษัทฯ มีแผนเพิ่มกำลังการผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ภายใต้แบรนด์ "มาม่า" ที่ประเทศฮังการี เป็น 2 เท่า จากปัจจุบันมีอยู่ 2 เครื่องจักร และก่อสร้างโรงงานใหม่อีกจำนวน 1 แห่ง คาดใช้งบลงทุนประมาณ 500-600 ล้านบาท แบ่งเป็นการเพิ่มทุนอีก 300 ล้านบาท และการกู้ยืมจากบริษัทแม่ โดยน่าจะได้เห็นความชัดเจนได้ในช่วงปลายปี 66 และจะสามารถเริ่มดำเนินการผลิตเชิงพานิชย์ได้ในช่วงปลายปี 67
"การเพิ่มกำลังการผลิตดังกล่าว ถือเป็นการเพิ่มในตลาดที่มีศักยภาพการเติบโตสูง จากในประเทศที่ไม่สามารถทำได้ ส่วนการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ก็จะเน้นขายสินค้าที่มีราคาสูงขึ้น หลังผู้บริโภครับได้กับราคา 7 บาท และพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยน หรือมีความกล้าใช้เงินมากขึ้น" นายพันธ์ กล่าว
นอกจากนี้บริษัทฯ ยังตั้งเป้าหมายรายได้ปี 66 เติบโตได้ประมาณ 5-6% จากปีก่อนที่ 27,165.20 ล้านบาท เป็นไปตามยอดขายตลาดต่างประเทศที่ขยายตัวขึ้น หลังบริษัทมีการขยายฐานในส่วนดังกล่าวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับมีการรับรู้ราคาขายใหม่ในประเทศเข้ามาเพิ่มเติม ส่งผลให้บริษัทมีความสามารถในการทำกำไรจากการขายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ภายใต้แบรนด์ "มาม่า" เพิ่มขึ้นเป็น 7-8% จากเดิมที่มีกำไรเพียง 0.3%