นายพงศ์ศักดิ์ ธรรมธัชอารี นักลงทุนรายใหญ่ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้น บมจ.ไทยพาร์เซิล (TPL) โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวชี้แจงที่มาที่ไปของการเข้าถือหุ้น บมจ.ไทยพาร์เซิล (TPL) พร้อมยืนยันว่าไม่ได้เข้าไปซื้อขายหุ้น TPL ในวันแรกที่เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ขณะที่เห็นด้วยกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ที่ออกมาประกาศแจ้งเตือนนักลงทุนถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้นในวันแรกที่เข้าเทรด
นายพงศ์ศักดิ์ ระบุว่า กระแสข่าวเรื่องหุ้น TPL ที่ทำให้นักลงทุนเสียหายมากมาย ขณะที่ตนเองเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้น TPL ทำให้เข้าใจสิ่งที่เป็นความจริงที่เกิดขึ้น จึงอยากแสดงความจริงที่ได้รู้ด้วยตนเอง เพื่อแสดงถึงความเป็นมาเป็นไปของการลงทุน TPL
เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 3 ปีที่แล้ว ผู้ถือหุ้นใหญ่ TPL ต้องการหาเงินทุนจากนักลงทุนเพื่อเข้าไปลงทุนในระบบ logistic และ warehouse เมื่อตนเองพิจารณาผลประกอบการและมูลค่ามาร์เก็ตแคปเทียบเป็น P/E พบว่าอยู่ที่ประมาณ 7-8 เท่า จึงเห็นว่าเป็นการลงทุนที่น่าสนใจ ทำให้เข้าไปซื้อหุ้นเพิ่มทุน 10 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 3.70 บาท
ระหว่างที่บริษัทดำเนินการอยู่ และเตรียมจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์ก็มี 2 เหตุการณ์เกิดขึ้น คือ เกิดสถานการณ์โควิด และผู้ถือหุ้นใหญ่ได้ขายหุ้น TPL ให้บริษัทหนึ่งในตลาดหลักทรัพย์ ต่อมา TPL ได้รับอนุญาตให้เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ทำให้ตนเองในฐานะผู้ถือหุ้นที่ถือมา 3 ปีมีชื่อร่วมเป็นผู้ถือหุ้นคนหนึ่ง
ต่อมาเมื่อหุ้น TPL เข้าเทรดวันแรกราคาหุ้นปรับขึ้นมาอย่างมากในช่วงแรก และมีข่าวเตือนจาก ตลท.ว่ามีการซื้อกระจุกตัว ทำให้นักลงทุนเทขายหุ้นออกมาจำนวนมาก ราคาจึงร่วงลงอย่างรุนแรง ขณะที่ในวันนั้น โดยส่วนตัวไม่ได้มีการซื้อหรือขายหุ้น TPL ออกมาเลย และเห็นด้วยกับมาตราการของตลท.ที่ออกมาเตือนนักลงทุน รวมถึงสนับสนุนให้ค้นหาความจริงต่อในเรื่องนี้
พร้อมกับให้ความเห็นว่านักลงทุนไม่ควรซื้อหุ้นเพยงเพราะนักลงทุนบางคนมีชื่ออยู่ แต่ควรประเมินมูลค่ากิจการด้วยตนเอง เพราะ การที่นักลงทุนที่มีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นในอดีต อนาคตเมื่อกิจการเปลี่ยนแปลง ความคิดของนักลงทุนก็อาจเปลี่ยนแปลงได้
นายพงศ์ศักดิ์ ยังได้ตอบคอมเมนท์หนึ่งว่าสาเหตุที่ไม่ซื้อหุ้น IPO ทั้ง ๆที่ขายในราคาแค่ 3.30 บาท ต่ำกว่าที่เคยเข้าลงทุนซื้อหุ้นเพิ่มทุนในอดีตที่ 3.70 บาทว่า ธุรกิจ TPL เปลี่ยนแปลงจาก 3 ปีก่อน ผู้บริหารเปลี่ยนแปลง การแข่งขันในธุรกิจเปลี่ยนแปลง เป็นเหตุผลที่ไม่ซื้อหุ้น IPO