นายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ ผู้ถือห้นใหญ่ บมจ.สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น (STARK) ออกแถลงการณ์ระบุว่าการที่ถูอายัดทรัพย์ทำให้กระบวนการแก้ไขปัญหาทางธุรกิจของ STARK หยุดชะงักไปต่อไม่ได้ ต้องหยุดการผลิต พนักงานเดือดร้อน ถูกคู่ค้าขึ้นแบล็คลิสต์ กิจการอาจต้องล้มละลาย จ่อโดนฮุบในราคาถูก ๆ ไม่มีเงินไปคืนผู้ถือหุ้นและผู้ถือหุ้นกู้
นายวนรัชต์ ระบุว่า เปิดเผยว่า การอายัดทรัพย์อดีตกรรมการ ผู้ถือหุ้นใหญ่ ก.ล.ต.ทำตามหน้าที่ทั้ง ๆ ที่ไม่มีประเด็น ซึ่งการอายัดทรัพย์บริษัทที่ยังประกอบธุรกิจอยู่ ทั้ง STARK บริษัท เฟล้ปส์ ดอด์จ อินเตอร์ฯ, บริษัท อดิศรสงขลา และ บริษัท ไทยเคเบิ้ล ทำให้เกิดคำถามตามมาว่าบริษัทพวกนี้จะไปต่ออย่างไร จะจ่ายเงินเดือนพนักงาน-ซัพพลายเออร์ได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้ ต้องหยุดโรงงานไป 180 วันแล้วจะผิดสัญญาส่งมอบสินค้าหรือไม่ โดยเฉพาะกรณีของเฟล้ปส์ดอด์จขายสายไฟให้การไฟฟ้า หากผิดสัญญา ส่งของไม่ได้ต้องถูกแบล็คลิสต์แล้วจะไปต่ออย่างไร
คนกลุ่มแรกที่เดือดร้อนโดยตรงคือ พนักงานบริษัทที่ต้องถูกลอยแพ และคู่ค้าที่วางบิลไปแล้ว หรือ ผลิตของ ส่งของให้ แต่ยังไม่ได้เงิน พนักงานจะได้รับเงินเดือนสิ้นเดือนนี้หรือไม่ คงต้องเตรียมหางานใหม่ และคู่ค้าก็คงเลิกคบ
ถัดมา คือ แบงก์ที่ปล่อยกู้ เฟล้ปส์ ดอด์จ ซึ่งก่อนหน้านี้ แบงก์กำลังเจรจากับผู้ถือหุ้นใหญ่ที่ค้ำประกันหนี้ไว้ 20,000 ล้านบาท ซึ่งมีแผนจะนำ เฟล้ปส์ ดอด์จ เข้าฟื้นฟูกิจการ เพื่อให้แบงก์ปล่อยสินเชื่อต่อลมหายใจในระหว่างที่ขายกิจการต่างๆ ทั้งที่เป็นของ STARK และของ เฟล้ปส์ ดอด์จ เพื่อนำเงินมาชำระหนี้
แต่เมื่อถูกอายัด แปลว่าจะไม่สามารถฟื้นฟูกิจการได้ จะกู้เงินมาเดินเครื่องโรงงานก็ไม่ได้ เพราะถ้ารอ 180 วันครบเวลาอายัดทรัพย์ บริษัทพวกนี้ก็จะกลายเป็นซากกิจการ โดนแบล็คลิสต์โดยการไฟฟ้าไปเรียบร้อย จากแผนเดิมที่จะทำการขายทรัพย์สินทั้งของ STARK และ เฟล้ปส์ ดอด์จ บวกกับหาอัศวิน white knight เข้ามาซื้อกิจการ นอกจากกิจการไปต่อได้ ยังน่าจะได้เงินมาจ่ายคืนผู้ถือหุ้นกู้บ้างไม่มากก็น้อย
"วันนี้ ผลงาน ก.ล.ต.ทำให้ลืมแผนนี้ได้ เพราะแบงก์รอฟ้องล้มละลาย เอาซากโรงงาน ที่ดิน มาขายทอดตลาด มูลค่าจากร้อย อาจจะเหลือยี่สิบ แต่แบงค์ก็ตั้งสำรองหนี้สูญไปแล้ว เหลือแต่ผู้ถือหุ้นและผู้ถือหุ้นกู้ STARK ที่รอเงินที่จะเหลือจากการขายทรัพย์สินพวกนี้ ยิ่งนานวัน แทนที่จะขายแบบกิจการที่รันได้ปรกติ ต้องมารอขายเป็นซาก เจ็บหนักกว่าแบงก์ ก็ผู้ถือหุ้นกู้ และผู้ถือหุ้น คนเดียวที่น่าจะยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ คือ พวกกลุ่มทุนในกิจการเคเบิ้ลที่มาจีบแบงก์ขอซื้อกิจการทั้งในไทยและเวียดนาม รออีกหน่อยราคาตกลงเรื่อยๆ จ่ายแค่ 20% ของมูลค่ากิจการก่อนวันโดนอายัดก็ได้"นายวนรัชต์ ระบุ