นายไพโรจน์ วัฒนวโรดม กรรมการผู้จัดการคนใหม่ บมจ.อีสเทอร์น สตาร์ เรียล เอสเตท (ESTAR) เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาได้มีประสบการณ์ด้านการบริหารงานในวงการอสังหาริมทรัพย์และองค์กรชั้นนำมายาวนาน อีกทั้งยังมีความเชี่ยวชาญในด้านการวิเคราะห์ภาพรวมตลาดอสังหาฯ การพัฒนาสินค้าเพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภค และการบริหารจัดการความเสี่ยง ตลอดจนสร้างความสัมพันธ์อันดีกับพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อการดำเนินงานที่ตอบโจทย์วิสัยทัศน์ของ ESTAR จึงตั้งใจนำประสบการณ์และความเชี่ยวชาญที่มีมาช่วยขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง
โดยวางเป้าหมายแรกการดำเนินงาน คือสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนภายในองค์กร ได้แก่ การเป็นหัวหน้าทีมที่เข้มแข็ง การเพิ่มศักยภาพองค์กรด้วยการสร้างทีมเวิร์คในการผลักดันงานให้เป็นไปตามเป้า การพัฒนาคุณภาพสินค้าที่โดนใจลูกค้าและสามารถจับต้องได้ และมีดีไซน์ตอบรับตลาด ทันยุคสมัย รวมถึงพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจ เป็นต้น
"ทิศทางธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้อาจจะชะลอตัวอยู่บ้าง แต่ในช่วงครึ่งปีหลังต่อจากนี้ ต้องติดตามหลังการตั้งรัฐบาลชุดใหม่ที่เข้ามาบริหารประเทศ ซึ่งจะเห็นนโยบายต่างๆ มีความชัดเจน และความเชื่อมั่นของผู้บริโภคน่าจะกลับมาดีขึ้น แต่สิ่งที่กังวลคือ กำลังซื้อถดถอยในภาพรวม และอัตราหนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง หากรัฐบาลใหม่ไม่สามารถเข้ามาบริหารจัดการได้ อาจจะกดดันให้การจับจ่ายใช้สอยในช่วงครึ่งปีหลังนี้เป็นไปอย่างจำกัด และด้วยปัจจัยดอกเบี้ยและราคาพลังงานที่เพิ่มขึ้น ก็จะยังส่งผลให้กำลังซื้อชะลอตัว ส่วนภาพรวมของผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์จะต้องหันมาเน้นพัฒนาโครงการที่มีราคาจับต้องได้ง่ายมากขึ้น หรือมุ่งเน้นสินค้าระดับพรีเมียมที่กลุ่มเป้าหมายได้รับผลกระทบจากการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารค่อนข้างน้อย" นายไพโรจน์ กล่าว
ขณะที่ตลาดอสังหาฯจากกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติ ก็ยังไม่ได้รับการสนับสนุนเท่าที่ควร ซึ่งจากทิศทางดังกล่าว ทำให้ในส่วนครึ่งปีหลังของการดำเนินงาน ESTAR ปรับทิศทางการดำเนินงานโดยเน้นโครงการพร้อมอยู่ และมีการเตรียมออกแคมเปญอัตราดอกเบี้ยพิเศษจากโครงการ รวมถึงในโครงการพรีเซลมีการเร่งยอดขายจากแคมเปญ ห้องสวย วิวดี ราคาพิเศษ ขณะเดียวกันทางฝั่งระยอง ก็จะมีการเปิดตัวโครงการ บ้านเดี่ยวใหม่ ระดับช่วงราคา 4-6 ล้านบาท และไฮไลท์สำคัญในปีนี้ คือการเปิดโฉม ควินทารา มาย? ซีรีย์ คอนโดใจกลางเมือง 3 โครงการ มูลค่ารวม 4.15 พันล้านบาท โดยเริ่มดำเนินการก่อสร้างแล้วทั้ง 3 โครงการ และคาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณช่วงไตรมาส 3/67 และไตรมาส 4/67 เป็นต้นไป ซึ่งเป็นซีรีย์แรกที่ใช้แนวคิด "Creator of Life?s Pleasures" มาเป็นแกนหลักในการพัฒนาสินค้าที่ตอบโจทย์ลูกค้า และจะนำไปใช้พัฒนาต่อในโปรดักส์ซีรีย์ปีหน้าด้วย
ภาพรวมโครงการ ESTAR ในปัจจุบันในโซนกรุงเทพฯ บริษัทมีโครงการที่เปิดขายอยู่ 6 โครงการ ซึ่งแบ่งเป็นโครงการพร้อมอยู่ที่ยังขายในปีนี้ และกระแสตอบรับดี 3 โครงการ มูลค่าคงเหลือรวม 1.1 พันล้านบาท ได้แก่ โครงการควินทารา อาเท่ สุขุมวิท 52 และโครงการเอสทารา เฮเว่น พัฒนา การ 20 เชื่อว่าทั้ง 2 โครงการนี้จะสามารถปิดการขายและพร้อมโอนภายในปีนี้ได้สำเร็จอย่างแน่นอน รวม ถึงโครงการควินทารา ภูม สุขุมวิท 39 ซึ่งได้รับความนิยมทำให้มียอดขายที่ดี ส่วนโครงการใหม่ที่ลงทุนพัฒนาในปีนี้จะอยู่ในโปรดักส์ควินทารา มาย? ซีรีย์ ภายใต้คอนเซ็ปต์ "Creator of Life?s Pleasures" ได้แก่ โครงการควินทารา มาย'เจน รัชดา - ห้วยขวาง มูลค่าโครงการ 1.05 พันล้านบาท คอนโดมิเนียม 8 ชั้น 2 อาคาร จำนวน 383 ยูนิต ราคาเริ่มต้นที่ 2.19 ล้านบาท มีจุดเด่นทำเล ใจกลางห้วยขวาง
โครงการห่างจาก MRT ห้วยขวาง 350 เมตร ดีไซน์แบบมินิมอล มีส่วนกลางขนาดใหญ่ 4 ชั้น ใกล้จุดเชื่อมต่อรถ ไฟฟ้า 4 สาย ต่อด้วยโครงการควินทารา มาย'เซน พร้อมพงษ์ มูลค่าโครงการ 1 พันล้านบาท คอนโดมิเนียม 8 ชั้น 2 อาคาร จำนวน 276 ยูนิต ราคาเริ่มต้นที่ 2.29 ล้านบาท มีจุดเด่น ดีไซน์สไตล์ญี่ปุ่น ทำเล ใกล้ BTS สถานีพร้อมพงษ์ เชื่อมต่อถนนสุขุมวิท - เพชรบุรีตัดใหม่ เดินทาง 5 นาที จากเอ็มควอเทียร์ และโครงการ ควินทารา มาย'เดน โพธิ์นิมิตร มูลค่าโครงการ 2.1 พันล้านบาท คอนโดมิเนียม 40 ชั้น จำนวน 628 ยูนิต ราคาเริ่มที่ 2.89 ล้านบาท มีจุดเด่นดีไซน์ และทำเลติดรถไฟฟ้า 0 เมตร ถึงสถานี เชื่อมต่อ การเดินทางที่สะดวก ซึ่งทั้ง 3 โครงการได้รับผลตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้า
ในส่วนของระยอง ในปีนี้มีจำนวน 6 โครงการพร้อมอยู่ มูลค่ารวม 2.85 พันล้านบาท ที่ยังเปิดขายอย่างต่อเนื่อง และมีบางโครงการใกล้ปิดการขายเร็วๆ นี้ ได้แก่ โครงการแกรนด์เวลาน่า อู่ตะเภา - บ้านฉาง โครงการเวลาน่า อะโมด้า อู่ตะเภา - บ้านฉาง และโครงการบรีซ แอท อีสเทอร์น สตาร์ ฟอเรสโต้ ที่ตอนนี้ใกล้ปิดแล้ว เพราะมียอดขายไปกว่า 98% นอกจากนี้ยังมีโครงการเปิดใหม่อย่าง โครงการเธร่า พรีม่า บูรพาพัฒน์ - สุขุมวิท และโครงการบรีซ ชาเล่ต์ บูรพาพัฒน์ - สุขุมวิท ซึ่งจากภาพรวมในตอนนี้ โครงการพร้อมอยู่มี Backlog เหลืออยู่ที่ประมาณ 560 ล้านบาท และคาดว่ายอดขายรวมภายในปีนี้จะยังเป็นไปตามเป้า โดยจะอยู่ที่ 3.1 พันล้านบาท ทำให้ยอดรายได้คาดการณ์อยู่ที่ 1.5 พันล้านบาท
จากนี้อีสเทอร์น สตาร์ เดินหน้าพัฒนาโปรดักส์ทุกโครงการโดยยึดจาก DNA แบรนด์ คือใช้ความโดดเด่นในการพัฒนาดีไซน์และคุณภาพสินค้ามาเป็นจุดแข็งเพื่อสร้างความได้เปรียบด้านการแข่งขัน พร้อมมุ่งเจาะกลุ่มตลาดระดับกลาง Gen Y โดยพัฒนาที่อยู่อาศัยทุกโครงการภายใต้แนวคิด "Creator of Life?s Pleasures" สามารถตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้จากความเฉพาะตัวที่เป็นเอกลักษณ์ใน 3 แกนหลักคือ Creator of Design, Creator of Green และ Creator of Living สร้างสรรค์การอยู่อาศัยแบบ Smart life อย่างสมบูรณ์รอบด้านด้วยดีไซน์ประณีตของงานสถาปัตยกรรมและการออกแบบที่มอบประโยชน์ใช้สอยสูงสุด ให้ความยืดหยุ่นของพื้นที่ใช้สอยที่รองรับได้ทุกไลฟ์สไตล์ ยกระดับคุณภาพการอยู่อาศัยอย่างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น การใช้พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานสะอาด โดยมีพื้นที่สำหรับ EV Charger ให้ลูกบ้าน มีระบบจัดการขยะเพื่อสนับสนุนการก้าวสู่สังคมคาร์บอนต่ำ ที่อยู่อาศัยยังต้องช่วยสร้างความสมดุลในการใช้ชีวิตตอบรับสังคมวิถีใหม่ New Normal ซึ่งให้ความสำคัญกับพื้นที่แยกสัดส่วนความเป็นสาธารณะกับพื้นที่ส่วนตัวชัดเจนหากยังเชื่อมโลกไว้ได้ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม
อย่างไรก็ตามในปีนี้บริษัทมีแผนที่จะลงทุนซื้อที่ดินเพิ่มในพื้นที่กรุงเทพฯ เพื่อรองรับการขยายพอร์ตแนวราบในปีหน้า และต้องการให้สินค้ามีความครอบคลุมทั้งในแง่ของเซ็กเมนท์และทำเล นอกจากนี้ยังต้องการตอบสนองดีมานด์ของลูกค้าที่มองหาที่อยู่อาศัยประเภทแนวราบในกรุงเทพฯ โดยเบื้องต้นได้มีการศึกษาที่ ดินรอบๆ เน้นไปทางกรุงเทพฯ เหนือ กรุงเทพฯ ตะวันออก และกรุงเทพฯ ตะวันตก ซึ่งเป็นทำเลที่มีศักยภาพ เนื่องจากติดถนนใหญ่ เชื่อมต่อการเดินทางได้สะดวกและอยู่ในรัศมีเส้นรถไฟฟ้า คาดว่าจะได้รับผลตอบรับที่ดี ตอนนี้โครงการอยู่ระหว่างการออกแบบและนอกจากนี้ยังศึกษาที่ดินเพิ่มเติมในแปลงอื่นๆ รอบกรุงเทพฯ ด้วยเช่นกัน เนื่องจากการกระจายตัวของประชากรเมือง และเส้นรถไฟฟ้าที่เพิ่มสายทำให้มีความน่าสนใจในหลายทำเล ในส่วนของที่ระยอง จากผลตอบรับที่ดีจากลูกค้าในพื้นที่ ทำให้บริษัทฯ ตัดสินใจจะนำที่ดินในโซนสนามกอล์ฟ และที่ดินตรงถนนบูรพาพัฒน์ บ้านฉาง มาพัฒนาโครงการใหม่พร้อม นำสิ่งที่ลูกค้าชอบจากโครงการที่ผ่านมา ได้แก่ ดีไซน์ ไลฟ์สไตล์ แบบบ้านมาเป็นส่วนหนึ่งในไอเดียการออกแบบ เพื่อให้บ้านออกมาคุ้ม ครบฟังก์ชัน และผู้อยู่อาศัยมีความสุข