หุ้น JAS พุ่ง 7.87% มาอยู่ที่ 1.38 บาท เพิ่มขึ้น 0.11 บาท เมื่อเวลา 9.58 น.จากราคาเปิดตลาดที่ 1.30 บาท
ขณะที่หุ้น JAFIF ลดลง 2.82% หรือลดลง 0.20 บา มาอยู่ที่ 6.90 บาท เมื่อเวลา 10.06 น.
บมจ.จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล (JAS) ขอแก้ไขสัญญาจัดหาผลประโยชน์จากทรัพย์สินกิจการโครงสร้างพื้นฐานของ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน (JASIF) เนื่องจาก บมจ.ทริปเปิลที บรอดแบนด์ (TTTBB) ซึ่งเป็นผู้เช่าประสบปัญหาการขาดสภาพคล่องอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.66 สามารถจ่ายเฉพาะค่าเช่ารายเดือนตามสัญญาแก้ไขเพิ่มเติม และแทนที่สัญญาเช่าหลัก (Amended and Restated Main Lease Agreement) เท่านั้น มูลค่า 654.39 ล้านบาท แต่ไม่สามารถจ่ายค่าเช่ามูลค่า 288.69 ล้านบาทได้ มีความจำเป็นต้องหยุดพักการชำระค่าเช่าตามสัญญาประกันรายได้ค่าเช่าไว้ก่อนสำหรับการเช่าตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.66 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ JAS ขอให้บริษัทจัดการดำเนินการเรียกประชุมผู้ถือหน่วยลงทุนของกองทุนภายใน 45 วัน เพื่อพิจารณาคำขอแก้ไขสัญญาๆ ได้แก่ ยกเลิกสัญญาประกันรายได้ค่าเช่าและสัญญาแก้ไขเพิ่มเติมและแทนที่สัญญาให้บริการจัดหาผู้เช่าทรัพย์สิน ให้มีผลเป็นการยกเลิก และระงับการชำระเงินตามสัญญาทั้งสอง
นอกจากนั้น ขอขยายอายุของสัญญาเช่าจากเดิมสิ้นสุดวันที่ 29 ม.ค.75 ไปเป็นวันที่ 31 ธ.ค.81 และกำหนดอัตราค่าเช่าตั้งแต่วันที่ 30 ม.ค.75-31 ธ.ค.75 จะเท่ากับ 402.37 บาทต่อคอร์กิโลเมตรต่อเดือน โดยอัตราค่าเช่าจะปรับขึ้นทุกวันที่ 1 ม.ค.ของทุกปีตามดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ไม่เกิน 3% ต่อปี และไม่ต่ำกว่า 0% ต่อปี
พร้อมทั้งผ่อนผันการผิดนัดชำระค่าเช่านับจากงวดเดือน ก.ค.66 (ซึ่งจะครบกำหนดชำระในวันที่ 17 ก.ค.66) โดยกองทุนจะไม่คิดดอกเบี้ยผิดนัด หรือเรียกร้องค่าเสียหายใดๆ ทั้งนี้ TTTBB จะผ่อนจ่ายค่าเช่าค้างชำระ 6 งวด เริ่มตั้งแต่เดือน ม.ค.67 เป็นต้นไปจนถึงงวดเดือน มิ.ย.67
บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) ระบุว่า คงคำแนะนำ "ถือ" JASIF เนื่องจากมีอัตราเงินปันผลตอบแทนปี 66 ที่ 11.5 วานนี้ (วันที่ 11 ก.ค.) TTTBB ได้ขอลดค่าเช่าลง 31% ท่ามกลางปัญหาสภาพคล่องที่ยังยืดเยื้อ เราปรับลดคาดการณ์ DPS ปี 66 ลง 11% สะท้อนค่าเช่าที่ลดลงจาก TTTBB อย่างไรก็ตาม ประมาณการสำหรับปี 67-74 ของเรายังคงไม่เปลี่ยนแปลงเนื่องจากเราได้รวมประเด็นลดค่าเช่าสำหรับช่วงเวลาดังกล่าวไว้ในประมาณการแล้ว เราเพิ่มราคาเป้าหมายขึ้นอีก 10% เป็น 6.8 บาทจากการต่ออายุสัญญาเช่าที่นานกว่าที่เราคาด ขณะที่ บล.กสิกรไทย ระบุวา JAS เสนอให้ JASIF สิ้นสุดสัญญารับประกันรายได้เพื่อชดเชยกับการต่อสัญญาเช่าฉบับหลักต่อไปอีก 6 ปี ซึ่งเป็นไปตามที่เราคาดไว้ คาด ADVANC จะได้ประโยชน์จากกำไรที่มากขึ้นและมูลค่าที่เพิ่มขึ้นหลังรวมกิจการและคาดปัจจัยเสี่ยงเรื่องสภาพคล่องและกฎระเบียบของ JAS จะบรรเทาลง ผู้ถือหน่วยลงทุนของ JASIF จะได้รับผลกระทบจาก yield ที่ลดลง ซึ่งจะส่งผลให้ JASIF เหมาะกับการเป็นหุ้นสำหรับการถือครองระยะยาว และมี yield ที่ทรงตัว