ราคาหุ้นกลุ่มท่องเที่ยว โรงแรม และห้างสรรพสินค้า ปรับตัวลงกันถ้วนหน้า เมื่อเวลา 10.14 น. โดย AOT ปรับตัวลง 0.70% หรือลดลง 0.50 บาท มาอยู่ที่ 70.75 บาท มูลค่าซื้อขายที่ 654.66 ล้านบาท
AAV ลบ 2.33% หรือลดลง 0.06 บาท มาอยู่ที่ 2.52 บาท มูลค่าการซื้อขาย 40.33 ล้านบาท
BA ลบ 1.41% หรือลดลง 0.20 บาท มาอยู่ที่ 14.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 5.85 ล้านบาท
MINT ลบ 0.78% หรือลดลง 0.25 บาท มาอยู่ที่ 32.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 378.21 ล้านบาท
CENTEL ลบ 2.21% หรือลดลง 1.00 บาท มาอยู่ที่ 44.25 บาท มูลค่าการซื้อขาย 27.77 ล้านบาท
CPN ลบ 1.15% หรือลดลง 0.75 บาท มาอยู่ที่ 64.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 21.90 ล้านบาท
ปัจจัยหลักที่นักลงทุนจับตาในวันนี้คือการโหวตนายกรัฐมนตรี ซึ่งยังมีความไม่แน่นอนสูงว่านายยพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล จะสอบผ่านหรือไม่ แม้ว่าจะได้รับคะแนนเสียงเลือกตั้งเข้ามาเป็นอันดับหนึ่ง โดยเฉพาะด่านสำคัญคือการที่จะต้องได้เสียงสนับสนุนจาก ส.ว.อีกกว่า 70 เสียง เพื่อให้รวมกับเสียงของ ส.ส. 8 พรรคที่รวบรวมได้ 311 เสียง (ยกเว้นเสียงของประธานรัฐสภา) ขณะที่กลุ่มมวลชนที่สนับสนุนการรวมตัวของ 8 พรรคการเมืองนัดชุมนุมหน้ารัฐสภาบ่ายวันนี้เพื่อกดดันให้ ส.ว.ยกมือให้กับพรรคที่ได้เสียงข้างมากในสภาผู้แทนฯ ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
บล.ไอร่า ระบุในบทวิเคราะห์ ว่า ตลาดให้ความสนใจกับการเมืองในประเทศ ในประเด็นการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีของไทยรอบที่ 1 ในวันนี้ หลังจากวานนี้ศาลรัฐธรรมนูญรับเรื่องที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีคำร้องขอให้วินิจฉัยสมาชิกภาพ ส.ส.ของนายพิธา ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98 ( 3 ) ประกอบมาตรา 101 ( 6 ) หรือไม่ จากการถือครองหุ้นสื่อ บมจ.ไอทีวี จำนวน 42,000 หุ้น อาจส่งผลให้คุณพิธาต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. และคาดจะมีผลกระทบต่อการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่งทำให้คาดการณ์การโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในวันนี้ไม่ราบรื่นมากนัก และทำให้ภาพความไม่แน่นอนทางการเมืองของไทยยืดเยื้อต่อไป แต่ประเมินว่าตลาดปรับตัวลงรับรู้ความกังวลดังกล่าวไปบ้างในระดับหนึ่งแล้ว
อย่างไรก็ตาม เรามีมุมมองเชิงลบต่อหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยว-โรงแรม (AOT, AAV, BA, CPN, MINT, ERW และ CENTEL) ในกรณีของความไม่แน่นอนทางการเมืองอาจนำมาซึ่งความวุ่นวายทางการเมืองที่เริ่มเห็นการจัดกิจกรรมทางการเมืองคาดจะส่งผลต่อตัวเลขนักท่องเที่ยวของไทยที่อาจออกมาต่ำกว่าคาด
อีกทั้งการที่เศรษฐกิจจีนฟื้นตัวช้ากว่าที่ตลาดประเมินไว้คาดจะส่งผลให้การเดินทางออกท่องเที่ยวต่างประเทศโดยเฉพาะอาเซียนรวมถึงไทยที่พึ่งพานักท่องเที่ยวจีนในระดับสูงได้รับผลกระทบ คาดอาจเห็นการปรับประมาณการนักท่องเที่ยวจีนลงและเป็นจิตวิทยาเชิงลบต่อหุ้นในกลุ่มดังกล่าว