นายวิษณุ เทพเจริญ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ณุศาศิริ (NUSA) เปิดเผยว่า บริษัทยืนยันที่จะเดินหน้าแผนเพิ่มทุนจดทะเบียนวงเงินไม่เกิน 1.3 หมื่นล้านบาท เพื่อนำไปแลกหุ้นกับกลุ่มผู้ถือหุ้น 40 รายในกลุ่ม T1 ที่ถือหุ้นในบริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด โดยกลุ่ม T1 จะเข้ามาถือหุ้นใน NUSA สัดส่วนราว 40% และกลุ่มเทพเจริญ จะมีสัดส่วนการถือหุ้นใน NUSA ลดลงเหลือ 10%
แม้ว่าสถานการณ์ปัจจุบัน บริษัทได้รับผลกระทบจากการที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขอให้ชี้แจงใน 3 ประเด็นที่ตั้งข้อสังเกต ทำให้นักลงทุนเกิดความกังวล และส่งผลให้เกิด Panic sell หุ้น NUSA เป็นเหตุราคาร่วงแรง ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อดีลการเพิ่มทุนดังกล่าว โดยเฉพาะในเรื่องราคาหุ้นเพิ่มทุนที่ได้ประเมินไว้ในช่วง 3 เดือนก่อนหน้านี้ที่ราวหุ้นละ 1 บาทกว่า สูงกว่าราคาหุ้น NUSA บนกระดานที่ 0.90 บาท/หุ้น แต่ขณะนี้ราคาหุ้นปรับตัวลงไปค่อนข้างมาก
"เราเกิดความกังวลในเรื่องราคาหุ้นที่เพิ่มทุนอยู่บ้าง แต่บริษัทยังยืนยันจะเพิ่มทุนในราคาเดิมที่ทางที่ปรึกษาทางการเงินได้ประเมินไว้ เพราะหากดีลเพิ่มทุนสำเร็จก็จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ถือหุ้นของ NUSA เพราะการที่มีธุรกิจของวินด์ฯ เข้ามาเสริมทำให้ธุรกิจของบริษัทแข็งแกร่งมากขึ้น และมีกำไรทันที แต่หากดีลล้มก็ไม่ส่งผลกระทบกับบริษัท เพราะยังมีสินทรัพย์ของเราที่สร้างรายได้เข้ามา และยังได้ปันผลจากวินด์ฯ ปีละ 160 ล้านบาทเข้ามา" นายวิษณุ กล่าว
ปัจจุบันธุรกิจหลักของ NUSA ยังเกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งได้ฟื้นตัวหลังจากสถานการณ์โควิด-19 โดยเฉพาะธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่อิงกับการท่องเที่ยวและสุขภาพ เช่น โครงการ Legend Siam พัทยา ที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาใช้บริการมากขึ้น รวมถึงจะมีการจัดงานอีเว้นท์ต่างๆ ใน Legend Siam ซึ่งจะทำให้ผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/66 และไตรมาส 4/66 โดดเด่นมากขึ้น
นายวิษณุ กล่าวว่า การดำเนินงานของบริษัทเริ่มเห็นผลขาดทุนลดลงเหลือไตรมาสละ 100 ล้านบาท จากเดิมอยู่ที่ราว 200-300 ล้านบาท และมั่นใจว่าจะว่าผลการดำเนินงานจะเริ่มพลิกกลับมามีกำไรในทุกไตรมาสตั้งแต่ต้นปี 67 เป็นต้นไป และหากดีลการเพิ่มทุนเพื่อแลกหุ้น WEH สำเร็จจะทำให้บริษัทมีกำไรอย่างชัดเจนทันที