หุ้น SIRI บวก 3.63% มาอยู่ที่ 2.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.07 บาท มูลค่าซื้อขาย 627.55 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.09 น. โดยเปิดตลาดที่ 1.98 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 2.00 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 1.97 บาท
ส่วนหุ้น SC บวก 3.13% มาอยู่ที่ 4.62 บาท เพิ่มขึ้น 0.14 บาท มูลค่าซื้อขาย 76.61 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 4.56 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 4.70 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 4.56 บาท
บล.พาย ระบุว่า หลังผ่านพ้นการเลือกนายกฯใน วันที่ 13 ก.ค. จะเข้าสู่กระบวนการเลือกรอบ 2 ในวันที่ 19 ก.ค.เชื่อว่าหากยังเสนอนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลเป็นนายกรัฐมนตรีก็ประเมินเช่นเดิมว่าจะไม่ผ่านการโหวดจาก ส.ว. แต่ในช่วงวันหยุดที่ผ่านมานายพิธาได้โพสต์ FB ระบุว่าหากพรรคก้าวไกลไม่สามารถเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้ก็พร้อมเปิดโอกาสให้พรรคอันดับสองอย่างพรรคเพื่อไทยขึ้นมาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และ ส.ส. พรรคก้าวไกลทุกคนก็พร้อมสนับสนุนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย ดังนั้นยิ่งเพิ่มความน่าจะเป็นที่พรรคเพื่อไทยจะขึ้นเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล
ขณะที่ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ว่า คาดกำไรไตรมาส 2/66 ของ บมจ.แสนสิริ (SIRI) ที่ 1.6-1.7 พันล้านบาท โตทั้ง q-q และ y-y หนุนจากยอดโอนที่แข็งแรงจาก Backlog และโครงการ Low-Rise ใหม่ ส่วนการเปิดโครงการใหม่ในไตรมาส 2/66 ทั้งแนวราบและ Campus Condo ได้รับการตอบรับที่ดี
ยังคาดกำไรปกติปี 66 ของ SIRI จะยังทำ Record High ที่ 4.5 พันล้านบาท +11% y-y และอาจเห็น Upside ส่วนปันผลงวดครึ่งปีแรก คาดจ่าย Yield 4-5% แนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 2.20 บาท
แนวรับ 1.88-1.82 บาท แนวต้าน 2 บาท
ส่วน บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ว่า บมจ.เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น (SC) แนะนำ "ซื้อ" พร้อมให้เป้า IAA Consensus 5 บาท ประเมินผลกำไรจะดีขึ้นทั้ง qoq และ yoy ตั้งแต่ไตรมาส 2/66 จากยอด backlog ในมือ และเร่งเปิดโครงการใหม่เน้นแนวราบระดับราคา 20 ล้านบาท และ 100 ล้านบาทต่อยูนิต