บมจ.นำวิวัฒน์ เมดิคอล คอร์ปอเรชั่น (NAM) จัดโรดโชว์ก่อนเตรียมความพร้อมเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 181 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 25.86% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ โดยแบ่งเป็น หุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายโดยบริษัทฯ จำนวนไม่เกิน 105 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดย WAI Global Corporation Limited จำนวนไม่เกิน 76 ล้านหุ้น และจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET)
นายสุขุม โพธิสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานบัญชีและการเงิน NAM กล่าวว่า บริษัทฯ มุ่งมั่นส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการด้านสุขภาพที่ดีขึ้น โดยปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์และบริการแบ่งได้เป็น 3 กลุ่มหลัก ได้แก่
(1.) กลุ่มผลิตและจำหน่ายเครื่องมือทางการแพทย์ (SM) ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจที่คิดค้น วิจัยและพัฒนา ผลิตและจำหน่ายเครื่องมือทางการแพทย์ ที่เกี่ยวข้องกับการทำให้อุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์สะอาด ปราศจากเชื้อและสามารถนำกลับมาใช้ใหม่กับผู้ป่วยรายถัดไปได้ตามมาตรฐานด้านสาธารณสุข โดยแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่ 1.1) ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเครื่องมือทางการแพทย์ 1.2) ผลิตภัณฑ์สำหรับการบำบัดขยะติดเชื้อทางการแพทย์ 1.3) ผลิตภัณฑ์สำหรับฆ่าเชื้อในอากาศและผิวสัมผัส และ 1.4) ผลิตภัณฑ์เฟอร์นิเจอร์ทางการแพทย์ นอกจากนี้ ยังได้รับแต่งตั้งเป็นตัวแทนจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย (Exclusive Distributor) ในการขายเครื่องมือทางการแพทย์กลุ่มทำให้ปราศจากเชื้อ ภายใต้เครื่องหมายการค้า "Steelco" ซึ่งเป็นแบรนด์ชั้นนำระดับโลก จากบริษัท สตีลโก้ เอส.พี.เอ (Steelco S.p.A.) ประเทศอิตาลี และยังเป็น Exclusive Distributor ในประเทศไทยและประเทศในโซนเอเชีย เพื่อจัดจำหน่ายเครื่องฆ่าเชื้อในอากาศจากแบรนด์ชั้นนำระดับโลก AAVI technology LTD. (AAVI) ประเทศฟินแลนด์ และได้รับกรรมสิทธิ์การผลิตผลิตภัณฑ์จากเทคโนโลยีฆ่าเชื้อในอากาศในประเทศไทยอีกด้วย
(2.) กลุ่มผลิตและจำหน่ายวัสดุสิ้นเปลืองทางการแพทย์ (CS) โดยบริษัทฯ เป็นผู้ผลิต นำเข้าและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในกลุ่มวัสดุสิ้นเปลืองทางการแพทย์ที่ใช้ร่วมกับเครื่องมือทางการแพทย์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง และผลิตภัณฑ์สำหรับใช้ร่วมกับเครื่องทำความสะอาด อาทิ ผลิตภัณฑ์ที่ใช้แล้วทิ้ง ซึ่งใช้ควบคู่กับเครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์ฆ่าเชื้อ น้ำยาฆ่าเชื้อสำหรับงานล้างอุปกรณ์ต่างๆ ในกระบวนการแช่และล้างทำความสะอาด และน้ำยาที่ใช้ในกลุ่มเครื่องฆ่าเชื้อในอากาศ อีกทั้งยังได้รับสิทธิเป็น Exclusive Distributor ชุดตรวจสอบการฆ่าเชื้อ ชุดทดสอบและชุดตรวจประสิทธิภาพกระบวนการทำความสะอาดเครื่องมือแพทย์ โดยเป็นผลิตภัณฑ์นำเข้าของบริษัท Terragene LLC จากประเทศอาร์เจนตินา, ตัวแทนจำหน่ายน้ำยาล้างทำความสะอาดอุปกรณ์ทางการแพทย์ของบริษัท Borer Chemie AG จากประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำด้านน้ำยาทำความสะอาดเครื่องมือทางการแพทย์ นอกจากนี้ ยังเป็นตัวแทนจำหน่ายวัสดุที่ใช้ในการห่ออุปกรณ์เครื่องมือแพทย์เพื่อใช้ในการอบฆ่าเชื้อของ บริษัท Sterimed จากประเทศฝรั่งเศส
(3.) กลุ่มงานให้บริการ (SV) ซึ่งเป็นกลุ่มที่ให้บริการหลังการขาย บริการบำรุงรักษาและซ่อมแซมเครื่องมือทำความสะอาดและฆ่าเชื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ บริการทำให้เครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ปราศจากเชื้อ รวมถึงบริการวางแผนและปรับปรุงพื้นที่ส่วนกลางของโรงพยาบาลให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล และบริการบำบัดขยะติดเชื้อทางการแพทย์ ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัทฯ เป็นหนึ่งในกระบวนการด้านความปลอดภัยของผู้ป่วย หรือ Patient Safety เพราะอุปกรณ์การแพทย์เป็นเครื่องมือที่ต้องนำกลับมาใช้ซ้ำ (Reusable) โดยปัจจุบัน NAM มีฐานลูกค้าที่สำคัญเป็นโรงพยาบาลและหน่วยงานองค์กรทางด้านสาธารณสุขกว่า 1,200 แห่ง ครอบคลุมทั้งในและต่างประเทศ
ผลการดำเนินงานช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (2563 ? 2565) บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการรวม 676.61 ล้านบาท 995.36 ล้านบาท และ 1,099.36 ล้านบาทตามลำดับ ซึ่งเป็นการเติบโตจากทุกกลุ่มธุรกิจ โดยมีรายได้หลักจากการผลิตและจำหน่ายเครื่องมือทางการแพทย์ (SM) คิดเป็นสัดส่วน 53.18% การผลิตและจำหน่ายวัสดุสิ้นเปลืองทางการแพทย์ (CS) คิดเป็นสัดส่วน 26.69% และการให้บริการ (SV) คิดเป็นสัดส่วน 19.11%
ทั้งนี้ บริษัทฯ มียอดขายเพิ่มมากขึ้นจากฐานลูกค้าเดิมที่เคยซื้อสินค้าหรือใช้บริการอยู่แล้ว โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าโรงพยาบาลภาครัฐ รวมถึงการเพิ่มลูกค้าในกลุ่มโรงพยาบาลเอกชน คลินิก หรือหน่วยงานองค์กรทางสาธารณสุขอื่นๆ เป็นต้น เพราะด้วยจุดแข็งของ NAM ในการนำเสนอสินค้าและให้บริการครบวงจรตั้งแต่การผลิต นำเข้า และจำหน่ายเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ รวมบริการต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนมีการคิดค้นและพัฒนาจนมีสิทธิบัตร (Patent) เป็นของตนเอง และยังสามารถขึ้นทะเบียนบัญชีนวัตกรรมกลุ่มนวัตกรรมทางการแพทย์ในประเทศ พร้อมทั้งได้ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยในการผลิตเพื่อให้ได้คุณภาพและมาตรฐานจนเป็นที่ยอมรับระดับสากล รวมถึงยังแสวงหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ทั้งในและต่างประเทศเพื่อสร้างการเติบโตในอนาคต
นายวิโรจน์ ชัยเทอดเกียรติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร NAM เปิดเผยว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์มีทิศทางเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยประเมินจากมูลค่าการจำหน่ายเครื่องมือแพทย์ในประเทศไทยปี 2565- 2566 มีอัตราเติบโตเฉลี่ยปีละ 5-7% สาเหตุหลักมาจากความต้องการใช้เครื่องมือแพทย์ที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับการใช้บริการทางการแพทย์ในสถานพยาบาลทยอยกลับสู่ระดับใกล้เคียงปกติ ภายหลังการระบาดของ COVID-19 ที่คลี่คลาย
ปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนการเติบโตของอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ ได้แก่ (1) อัตราการเจ็บป่วยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) (2) จำนวนผู้ป่วยต่างชาติที่มีแนวโน้มกลับมาใช้บริการในไทยเพิ่มขึ้นในปี 2565-2566 หลังจากหดตัวถึง 97% ในปี 2564 (3) ผู้ประกอบการโรงพยาบาลมีแผนขยายการลงทุนต่อเนื่อง (4) กระแสการใส่ใจสุขภาพและความต้องการดูแลสุขภาพแบบครบวงจรในประเทศไทยและทั่วโลกมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น (5) ประเทศคู่ค้าหลักของไทยยังมีความต้องการอุปกรณ์ทางการแพทย์อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มวัสดุสิ้นเปลืองประเภทถุงมือยาง หลอด และเข็มฉีดยา เป็นต้น (6) นโยบายสนับสนุนจากภาครัฐในการพัฒนาให้ไทยเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (Medical Hub) ซึ่งจากปัจจัยดังกล่าว ทำให้การแข่งขันในอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์โดยรวมมีแนวโน้มสูงขึ้น
บริษัทมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการดำเนินธุรกิจมานานกว่า 50 ปี โดยเป็นผู้ดำเนินธุรกิจผลิต นำเข้าและจำหน่ายเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ สำหรับทำความสะอาดและฆ่าเชื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ในระดับปราศจากเชื้อในโรงพยาบาลและสถานพยาบาลตามมาตรฐานด้านสาธารณสุข รวมถึงผลิตและจัดจำหน่ายน้ำยาและวัสดุสิ้นเปลือง สำหรับใช้ร่วมกับเครื่องมือทำความสะอาดและฆ่าเชื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ และให้บริการอื่นที่เกี่ยวข้องแบบครบวงจร
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร NAM กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯ มุ่งมั่นก้าวสู่ผู้นำอุตสาหกรรมผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์กลุ่มงานปราศจากเชื้อในประเทศไทย และพร้อมต่อยอดขยายไปสู่ระดับโลกในอนาคต โดยมีเป้าหมายสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ ต่อยอดนวัตกรรมจากการคิดค้น วิจัย และพัฒนาผลิตภัณฑ์ ร่วมกับการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ รองรับการเติบโตจากนโยบายสุขภาพที่ได้รับการสนับสนุนเพิ่มขึ้นจากภาครัฐ และมาตราฐานทางการแพทย์ที่พัฒนาให้มีความปลอดภัยมากขึ้น การขยายฐานลูกค้าจากเดิมที่เป็นองค์กรทางการแพทย์ เข้าถึงลูกค้าอื่นที่มีความต้องการผลิตภัณฑ์สำหรับองค์กรขนาดเล็ก อาทิ ห้องทดลอง คลินิก ห้องปฏิบัติการทั้งคนและสัตว์ ผู้บริการทางการแพทย์ รวมถึงกลุ่มลูกค้าระดับครัวเรือน นอกจากนี้ ยังตั้งเป้าการเติบโตจากการขยายกิจการของบริษัทฯ ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในกิจการใหม่ หรือความร่วมมือทางธุรกิจในอนาคต ทั้งนี้ เพื่อมุ่งเน้นการขยายกิจการในต่างประเทศ ด้วยการสร้างรากฐานรองรับการเติบโตในอนาคต