บมจ. ศรีสวัสดิ์ แคปปิตอล 1969 (SCAP) เตรียมออกและเสนอขายหุ้นกู้ครั้งแรกให้กับผู้ลงทุนทั่วไป จำนวน 2 รุ่น อายุ 1 ปี 6 เดือน ดอกเบี้ย ราว 3.75-4.00% ต่อปี และอายุ 3 ปี ดอกเบี้ยราว 4.50-4.70% ต่อปี กำหนดจ่ายดอกเบี้ยทุก ๆ 3 เดือน ตลอดอายุหุ้นกู้ สำหรับอัตราดอกเบี้ยที่แน่นอนจะประกาศให้ทราบอีกครั้ง คาดเสนอขายระหว่างวันที่ 3-4 และ 7 ส.ค.66 เพื่อนำเงินไปขยายธุรกิจที่มีอัตราการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง และเตรียมพิจารณาปรับเป้าสินเชื่อปีนี้สูงขึ้นจากเดิมตั้งไว้ 3 หมื่นล้านบาท
อันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทและหุ้นกู้ระดับ Investment Grade ที่ "BBB+" แนวโน้มอันดับเครดิต "คงที่" จากทริสเรทติ้ง เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.66
นายวิชิต พยุหนาวีชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SCAP เปิดเผยว่า วัตถุประสงค์ในการออกหุ้นกู้ครั้งนี้บริษัทฯจะนำเงินที่ได้ไปใช้เพื่อขยายธุรกิจผ่านการปล่อยสินเชื่อใหม่ให้แก่ลูกค้าของบริษัท ซึ่งจะสอดรับกับเป้าหมายตลอดทั้งปีที่บริษัทฯ ได้วางแผนไว้
"การออกหุ้นกู้ครั้งนี้เป็นครั้งแรกของบริษัทฯและจะนำเงินที่ได้รับไปใช้ในการขยายธุรกิจในการให้สินเชื่อแก่ลูกค้า โดยบริษัทฯ ตั้งเป้าการเติบโตของพอร์ตลูกหนี้ปีละ 40% ในปี 66 บริษัทจะดำเนินงานตามแผนงานที่จะขยายตลาดและเพิ่มการปล่อยสินเชื่อให้เป็นไปตามแผนงานที่วางไว้ และเชื่อว่าสามารถทำได้ดี"
ในขณะเดียวกัน บริษัทได้เตรียมแผนงานที่จะขยายตลาดให้ใหญ่มากขึ้นเพื่อรองรับการเจริญเติบโตในอนาคตอันใกล้ ซึ่งถ้าดูจากผลประกอบการในไตรมาส 1/66 บริษัทสามารถทำได้ดีกว่าแผนที่วางไว้ โดยบริษัทฯ มีสินทรัพย์เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 30,858 ล้านบาท กำไรสุทธิ 394.4 ล้านบาท ขยายตัว 75.44% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 224.83 ล้านบาท
ขณะที่รายได้รวมอยู่ที่ 1,552.08 ล้านบาท ขยายตัว 131.83% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 669.49 ล้านบาท รับอานิสงส์พอร์ตสินเชื่อขยายตัวดันรายได้ดอกเบี้ย รายได้ค่าธรรมเนียมและรายได้อื่นๆ ส่วนพอร์ตลูกหนี้เติบโตขึ้นอยู่ที่ 26,522 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้น 133.10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากสถานการณ์เศรษฐกิจที่กลับมาพลิกฟื้นดีขึ้น กระตุ้นให้เกิดยอดการจองซื้อรถจักรยานยนต์ใหม่ขยายตัวเพิ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงเทศกาลปีใหม่ต่อเนื่องจนถึงเทศกาลสงกรานต์
ส่วนหนี้เสียหรือ NPL ไตรมาส 1/66 อยู่ที่ประมาณ 2.33% ซึ่งยังคงอยู่ในกรอบ 3-4% ที่ทางบริษัทตั้งเอาไว้ อย่างไรก็ดี บริษัทฯ มีอัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อรวมอยู่ที่ 1.24% และยังคงมีสภาพคล่องอยู่ในเกณฑ์ดี โดย ณ ไตรมาส 1 ปี 2566 บริษัทฯ มีอัตราส่วนสภาพคล่องอยู่ที่ 1.97 เท่า โดยในส่วนของแนวโน้ม NPL ในช่วงเวลาที่เหลือของปี บริษัทฯ เชื่อว่าจะสามารถคุมให้อยู่ในกรอบ 3-4% ที่ตั้งเป้าไว้ได้
ทั้งนี้ SCAP มีการเจริญเติบโตอย่างแข็งแกร่งและต่อเนื่อง และให้ความสำคัญกับการควบคุมคุณภาพหนี้ โดยนโยบายการบริหารความเสี่ยงเป็นไปในทิศทางเช่นเดียวกันกับบมจ. ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น (SAWAD) ที่เป็นบริษัทแม่ นอกจากนั้นบริษัทยังใช้เครือข่ายสาขาของ SAWAD ในการติดตามหนี้และใช้เป็นศูนย์บัญชาการระดับภูมิภาคในการดำเนินการด้านการให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ใหม่ เพื่อทำให้เกิดประสิทธิภาพในการบริหารต้นทุนที่ดีก่อให้เกิดผลกำไรที่ดีอย่างต่อเนื่อง