นายณวัฒน์ อิสรไกรศีล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MGI) เปิดเผยว่า เราพร้อมเดินหน้าสู่การเป็นบริษัทมหาชน ด้วยเป้าหมายเพื่อยกระดับอุตสาหกรรมการประกวดนางงามทั้งระดับประเทศและระดับนานาชาติ ให้เป็นเวทีนางงามที่ได้รับกระแสนิยมมากที่สุด ภายใต้สโลแกน "นับจากนี้ทุกพื้นที่มีแต่แกรนด์" ทำให้มีผู้คนติดตามและมีส่วนร่วม (Engagement) ในประสบการณ์ จากแบรนด์ของบริษัท ในการต่อยอดไปสู่ธุรกิจของบริษัทที่เกี่ยวข้องทุกสายงาน รวมทั้งส่งมอบสินค้าและบริการแก่ลูกค้าให้ประทับใจที่สุด พร้อมพัฒนาและเสริมสร้างการเรียนรู้ให้แก่บุคลากรอย่างต่อเนื่อง
จุดเด่นของมิสแกรนด์ คือ แบรนด์ที่ประสบความสำเร็จ สามารถเข้าสู่ระบบลิขสิทธิ์ตัวแทน 77 จังหวัดทั่วประเทศไทย ถือเป็นเวทีการประกวดแรกในประเทศไทยที่ดำเนินการจัดการในรูปแบบนี้ รวมทั้ง เครือข่ายนางงามที่ส่งเข้าประกวดในระดับนานาชาติ พร้อมเดินหน้ากลยุทธ์การขยายตลาดสร้างความยั่งยืน และต่อยอดไปสู่ธุรกิจที่เป็นโอกาสมากขึ้น
นายวรชาติ ทวยเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟินเน็กซ์ แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน MGI เปิดเผยว่า คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้นับหนึ่งไฟลิ่ง MGI และได้รับอนุมัติแบบคำขอเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 60 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท คิดเป็น 28.57% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดภายหลัง IPO คาดว่าจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็น เอ ไอ (mai) ในหมวดธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค ภายในปี 66 เพื่อสร้างความแข็งแกร่งทางธุรกิจให้บริษัทฯ และสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน
แผนการระดมทุนในครั้งนี้ MGI มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1. ลงทุนซื้ออาคารและดำเนินการปรับปรุงเพื่อเป็นอาคารสำนักงานใหม่, 2. ลงทุนพัฒนาผลิตภัณฑ์สินค้า และผลิตรายการ เพื่อเพิ่มความสามารถในการสร้างรายได้ในทุกช่องทาง, 3. ลงทุนพัฒนาขีดความสามารถของระบบสารสนเทศ (Information Technology) และ 4. เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินกิจการ
MGI ดำเนินธุรกิจบริหารการจัดการประกวดนางงาม "มิสแกรนด์ ไทยแลนด์" และ "มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล" และการบริหารจัดการศิลปินและการจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค โดยธุรกิจของบริษัทสามารถแบ่งออกได้เป็น 4 กลุ่ม ได้แก่
1. ธุรกิจพาณิชย์ (Commerce) เป็นธุรกิจจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค ทั้งสินค้าที่อยู่ภายใต้เครื่องหมายการค้าของบริษัท ได้แก่ Miss Grand MGI และ NangNgam รวมถึงจัดจำหน่ายสินค้าที่ไม่ได้อยู่ภายใต้เครื่องหมายการค้าของบริษัท ในสัดส่วน 75:25 โดยมีสินค้าประกอบด้วย กลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าและผิวกาย กลุ่มผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคล กลุ่มผลิตภัณฑ์น้ำหอม กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องแต่งกายและเครื่องประดับ และกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารและอาหารเสริม
2. ธุรกิจประกวดนางงามมิสแกรนด์ (Pageant) ซึ่งเป็นธุรกิจจัดประกวดนางงามทั้งระดับในประเทศและระดับต่างประเทศ โดยบริษัทดำเนินการจัดประกวดนางงามในประเทศ เพื่อค้นหาผู้หญิงไทยที่มีคุณสมบัติครบถ้วน เหมาะสม เพื่อมาดำรงตำแหน่ง มิสแกรนด์ ไทยแลนด์ (Miss Grand Thailand หรือ MGT) โดยจะขายลิขสิทธิ์การประกวดนางงามระดับจังหวัดทั้ง 77 จังหวัดในแต่ละปีให้กับผู้ได้รับสิทธิ์การประกวดระดับจังหวัด (Provincial Director : PD) และ PD จะทำหน้าที่จัดประกวดเพื่อคัดเลือกนางงามมิสแกรนด์จังหวัดเข้าประกวด มิสแกรนด์ ไทยแลนด์ ต่อไป หลังจากนั้นบริษัทจะส่งผู้ชนะการประกวด MGT เข้าประกวด MGI ซึ่งเป็นเวทีระดับนานาชาติต่อไป
3. ธุรกิจสื่อและบันเทิง (Media and X-Periences) โดยในส่วนธุรกิจสื่อ เป็นธุรกิจซื้อมาจำหน่ายไปเวลาออกอากาศ (Airtime) รายการที่มีชื่อเสียงตามสื่อโทรทัศน์ ได้แก่ รายการทูเดย์โชว์ ครัวคุณต๋อย เพชรรามา เป็นต้น ส่วนธุรกิจบันเทิง เป็นธุรกิจจัดกิจกรรมเพื่อสร้างเสริมประสบการณ์ให้กับกลุ่มลูกค้าได้มีส่วนร่วมกับนางงามและศิลปินของบริษัท เช่น การจัดคอนเสิร์ตอิงฟ้ามหาชน, MGT x ระเบียบวาทศิลป์, Meet & Greet เป็นต้น และยังมีรายการบันเทิงในลักษณะการทำ Content เบื้องหลังงานกิจกรรมต่างๆ ของบริษัทในลักษณะเป็นคลิปวิดีโอสั้นๆ โดยทีมงานที่เป็นพนักงานของบริษัทถ่ายทอดลงในช่อง Grand TV บน YouTube เพื่อสร้างความสนใจให้กับลูกค้า
4. ธุรกิจบริหารจัดการศิลปิน (Talent) เป็นธุรกิจสืบเนื่องจากการประกวดนางงาม มิสแกรนด์ ไทยแลนด์ และ มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล โดยบริษัทจะทำสัญญากับผู้ชนะการประกวด มิสแกรนด์ ไทยแลนด์ ผู้ได้อันดับรองลงมาในการประกวด มิสแกรนด์ ไทยแลนด์ และผู้ชนะ มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล เป็นศิลปินในสังกัดของบริษัท เพื่อปฏิบัติงานตามที่ได้รับมอบหมายตามที่บริษัทจัดหางานมาให้ ได้แก่ งานรีวิวสินค้า งานพิธีกร งานโชว์ตัว งานเดินแบบ งานแสดงภาพยนตร์ เป็นต้น
ผลประกอบการในปี 65 บริษัทมีรายได้รวม 319.86 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 47.85 ล้านบาท ส่วนผลประกอบการช่วงไตรมาส 1/66 บริษัทมีรายได้รวม 83.13 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันปีก่อนมีรายได้รวม 42.24 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 7.66 ล้านบาท จาก 1/2565 มีกำไรสุทธิ 3.60 ล้านบาท
ปัจจุบัน MGI มีทุนจดทะเบียน 105 ล้านบาท เป็นทุนจดทะเบียนที่ออกและชำระแล้ว 75 ล้านบาท โครงสร้างผู้ถือหุ้นประกอบด้วย 1. นายณวัฒน์ อิสรไกรศีล สัดส่วนก่อนและหลัง IPO อยู่ที่ 60% และ 42.86% ตามลำดับ, 2. นายรัชพล จันทรทิม สัดส่วนก่อนและหลัง IPO ที่ 39.99% และ 28.56% ตามลำดับ และ 3. นางพรพรรณ จุลเจือ สัดส่วนก่อนและหลัง IPO ที่ <0.01% และ <0.01% ตามลำดับ
บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิจากงบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัทฯ ภายหลังจากหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและการจัดสรรทุนสำรองต่างๆ ทุกประเภทตามที่ได้กำหนดไว้ในกฎหมายและข้อบังคับของบริษัทฯ