บมจ.ยูโร ครีเอชั่นส์ (EURO) ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์และร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 78,000,000 หุ้น คิดเป็น 25.57% ของจำนวนหุ้นหลัง IPO มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท โดยเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายโดยบริษัท 55,000,000 หุ้น คิดเป็น 18.03% และหุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดย European Design Holdings Limited (EDH) จำนวน 23,000,000 หุ้น คิดเป็น 7.54% บริษัทะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) หมวดธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค โดยมี บล.ทรีนีตี้ เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
นายเควิน กัมบีร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร EURO เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมขาย IPO ไม่เกิน 78 ล้านหุ้นและเข้าตลาด mai เสริมความแข็งแกร่ง ชูศักยภาพเป็นผู้ประกอบการชั้นนำในธุรกิจ "Luxurious & High Quality Living" ตอบสนองไลฟ์สไตล์ผู้บริโภค จากการเป็นตัวแทนนำเข้าและจัดจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ สินค้าตกแต่ง และอุปกรณ์ฟิตเนส แบรนด์ชั้นนำระดับลักซูรี่จากต่างประเทศอย่างเป็นทางการ ตอบสนองไลฟ์สไตล์ทุกพื้นที่ใช้สอยของลูกค้า พร้อมบริการที่เกี่ยวเนื่องเพื่อรองรับความต้องการทุกขั้นตอนการตกแต่งบ้าน โรงแรม อาคารสำนักงาน และสปอร์ตคลับ
วัตถุประสงค์การใช้เงินเพื่อใช้เป็นเงินลงทุนสำหรับการก่อสร้างโชว์รูมแห่งใหม่ จำนวน 3 แห่งภายในปี 2569 และนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการภายในปี 2569
บริษัทเป็นตัวแทนนำเข้าและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เฟอร์นิเจอร์ ผลิตภัณฑ์สำหรับการตกแต่ง และอุปกรณ์ฟิตเนสจากแบรนด์ชั้นนำระดับลักซูรี่ โดยเป็นตัวแทนนำเข้าและจัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย อาทิ Technogym, Molteni&C, Natuzzi Italia, Giorgetti, Calligaris, Cassina, Christopher Guy, Galotti&Radice, Malerba และ Frette เป็นต้น โดยแต่ละแบรนด์ล้วนมีการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เป็นที่ยอมรับของลูกค้ามีระดับทั่วโลก
ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2566 บริษัทมีโชว์รูมที่เปิดดำเนินการแล้วทั้งสิ้น 5 แห่ง ได้แก่ (1) Euro Creations Flagship Gallery at Thonglor (2) Natuzzi Italia at Siam Paragon (3) Euro Creations Gallery at Crystal Design Center (4) Technogym Flagship Showroom at Ekamai และ (5) Technogym Showroom at Central Embassy
และมีแผนเปิดโชว์รูมแห่งใหม่ที่กำลังจะเปิดในอนาคต (อยู่ในระหว่างดำเนินการออกแบบและก่อสร้าง) จำนวน 3 แห่ง ได้แก่ (1) Euro Gallery at Thonglor Soi 5 และ (2) Euro Creations Flagship Gallery at Phuket ที่คาดการณ์ว่าจะเปิดดำเนินการภายในไตรมาสที่ 2 ของปี 2567 และ (3) Euro Creations Gallery at Thonglor Soi 1 ที่คาดการณ์ว่าจะเปิดดำเนินการภายในไตรมาสที่ 4 ของปี 2569 และอาจมีการขยายโชว์รูมเพิ่มเติมอีกในอนาคต
โครงสร้างผู้ถือหุ้นของบริษัท ได้แก่ ครอบครัวกัมบีร์ ถือหุ้น 72.64% หลังเสนอขาย IPO จะลดลงเหลือ 59.54% , ครอบครัวอมรรัตนเวช ถือหุ้น 18.16% จะลดลงเป็น 14.89% และ European Design Holdings Limited ถือ 9.02% หลังขาย IPO ไม่มีการถือหุ้น
บริษัทมีรายได้จากการขายและการบริการ เติบโตอย่างต่อเนื่องจาก 776.59 ล้านบาทในปี 63 เป็น 1,047.91 ล้านบาทในปี 65 และสำหรับงวด 3 เดือนสิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.65 และ 66 รายได้จากการขายและการบริการเท่ากับ 209.07 ล้านบาท และ 324.21 ล้านบาท ตามลำดับ
บริษัทมีกำไรสุทธิ เท่ากับ 105.49 ล้านบาท 121.66 ล้านบาท และ 135.91 ล้านบาท โดยมีอัตรากำไรสุทธิ คิดเป็น ร้อยละ 13.47 ร้อยละ 14.51 และร้อยละ 12.72 ของรายได้รวมในปี 63, 64 และ 65 ตามลำดับ และสำหรับงวด 3 เดือนสิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.65 และ 66 บริษัทมีกำไรสุทธิ เท่ากับ 26.59 ล้านบาท และ 60.78 ล้านบาท ตามลำดับ ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 128.62 จากงวดเดียวกันของปี 65 โดยมีอัตรากำไรสุทธิ คิดเป็นร้อยละ 11.75 และร้อยละ 18.62 ของรายได้รวม ตามลำดับ
บริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 30 ของกำไรสุทธิจากงบเฉพาะกิจการภายหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และเงินสำรองต่างๆ ทุกประเภทตามที่กำหนดไว้ในกฎหมายและข้อบังคับของบริษัทฯ