หุ้น PTTEP ราคาขยับขึ้น 2.40% มาอยู่ที่ 171 บาท เพิ่มขึ้น 4 บาท มูลค่าซื้อขาย 339.60 ล้านบาท เมื่อเวลา 12.26 น. โดยเปิดตลาดที่ 169 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 172 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 168 บาท
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กรุงศรีอยุธยา แนะ"ซื้อ"หุ้น บมจ. ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP)ให้ Fair Price 185 บาท มีมุมมองเชิงบวกของผลการดำเนินงานปี 51 ที่จะขยายตัวสูง โดยคาดกำไรใน 2Q-3Q51 จะเป็นไตรมาสที่โดดเด่นของปี จากการรับรู้ปริมาณยอดขายที่เพิ่มขึ้นจากโครงการอาทิตย์ และโครงการเวียดนาม 9-2 รวมทั้งคาดจะได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันดิบที่ทรงตัวอยู่ในระดับสูงในฐานะบริษัท E&P และมี Dividend Yield ประมาณ 2.4% ในปี 51
ทั้งนี้ ได้คงประมาณการกำไรสุทธิปี 51 ที่ 37,237 ล้านบาท เติบโต 31%YoY จากปริมาณยอดขายปิโตรเลียมที่คาดจะเติบโต 22% YoY เป็น 219,000 boe/d (ต่ำกว่าคาดการณ์ของ PTTEP ที่ 223,000 boe/d จากการรวมผลกระทบของอัตราการผลิตของโครงการอาทิตย์ที่ระดับ DCQ 330mmscfd ที่ล่าช้าไปจากเดิม 2 เดือน) จากการเริ่มดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์ของโครงการใหม่ ได้แก่ โครงการอาทิตย์ (เริ่มดำเนินการผลิตปลาย มี.ค. 51 และคาดผลิตได้เต็มที่ที่ 330mmscfd ในเดือน พ.ค. 51 และคาดจะเพิ่มขึ้นอีก 120mmscfd ในเดือน ส.ค. 51 จากโครงการอาทิตย์เหนือ) และโครงการเวียดนาม 9-2(3Q51)
และราคาขายเฉลี่ยที่คาดจะเพิ่มขึ้น 16% YoY เป็น US$45.96/boe จากราคาน้ำมันดิบที่คาดจะทรงตัวอยู่ในระดับสูง (คาดราคาน้ำมันดิบดูไบที่ US$85/บาร์เรล) และการปรับขึ้นของราคาก๊าซฯ ที่มี Lag Time จากการปรับขึ้นของราคาน้ำมันดิบ
ด้านบล.เคจีไอ แนะ"ซื้อ"หุ้น PTTEP เชื่อว่าสถานการณ์ราคาน้ำมันและยอดขายที่เพิ่มสูงจากแหล่งอาทิตย์ในไตรมาส
2/51, แหล่งอาทิตย์เหนือในเดือน ส.ค. และแหล่งเวียดนาม 9-2 ในไตรมาส 3/51 จะเป็นปัจจัยหลักสำคัญ 2 ประการในการผลักดันกำไรปี 2551 ของ PTTEP และราคาหุ้นให้เพิ่มขึ้น โดยมีราคาเป้าหมายที่ 186 บาท นอกจากนี้ คาดว่าอาจมีการปรับราคาเป้าหมายในอนาคต ตามสถานการณ์ราคาน้ำมันในปัจจุบันอีกด้วย
โดยยังคงมีความเห็นที่เป็นบวกต่อแนวโน้มกำไรของ PTTEP ในไตรมาส 2/51 เนื่องจากคาดการณ์ถึงยอดขายที่เพิ่มขึ้นจากการเริ่มการผลิตในแหล่งอาทิตย์เมื่อวันที่ 26 มี.ค. ที่ 80 ล้านลบ.ฟุตต่อวัน (mmscfd) และควรเพิ่มปริมาณการผลิตได้ตามจำนวนที่ระบุไว้ในสัญญา(DCQ) ที่ 330 mmscfd ในปลายเดือน เม.ย. นอกจากนี้ ราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น YTD จะเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ช่วยผลักดันผลประกอบการในไตรมาส 2/51 ให้สูงเป็นประวัติการณ์
ในขณะที่กำไรจากการดำเนินงานในไตรมาส 1/51 ที่ 8.6 พันล้านบาทคิดเป็น 23.88% ของประมาณการตลอดปี ดังนั้นยังคงประมาณการกำไรของเราในปี 2551 ไว้ที่ 36.0 พันล้านบาท
ส่วนบล.ฟิลลิป (ประเทศไทย)แนะ"ซื้อ"หุ้น PTTEP ให้ราคาพื้นฐานของปี 2551 เป็น 191 บาทต่อหุ้น ปรับเพิ่มจากเดิมที่ 183 บาทต่อหุ้น เพราะปรับสมมุติฐานราคาน้ำมันเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ยังคาดการณ์ยอดขายของ PTTEP ในปีนี้ที่ 223,000 BOED เพิ่มขึ้น 24.05%จากปี 2550 ถึงแม้ว่าในช่วงไตรมาสที่ 1 จะทำได้ไม่ถึงเป้าหมายเพราะเป็นช่วงเริ่มต้นของโครงการอาทิตย์ แต่ก็จะสามารถเพิ่มการผลิตได้ตามแผนที่ 330 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน (MMSCFD)
สำหรับโครงการอาทิตย์เหนืออีก 120MMSCFD ที่จะเริ่มใน 3Q51 และโครงการเวียดนาม 9-2 ประมาณ 20,000 BBLD คาดว่าจะทำได้ตามเวลาที่กำหนด เนื่องจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับยังคง เพิ่มขึ้น ราคาเฉลี่ยน้ำมันดิบดูไบจนถึงปัจจุบันอยู่ที่ US$93 ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 45% จากราคาเฉลี่ยปี 2550 ที่ US$64 ต่อบาร์เรล ทางฝ่ายฯปรับสมมุติฐานราคาน้ำมันเพิ่มจาก US$73 ต่อ บาร์เรลในทุกๆปี เป็น US$80 ต่อบาร์เรลในปี 2551 และลดลงเป็น US$75-78 ต่อบาร์เรลในปีต่อๆ ไป ส่วนค่าเงินบาทก็ปรับให้แข็งค่าขึ้นจาก 33.5 บาทต่อUS$ เป็น 32.25 บาทต่อUS$ ส่งผลให้บริษัทมีกำไรสุทธิ 36,446.94 ล้านบาท ปรับเพิ่มจากประมาณการเดิมที่ 36,017.30 ล้านบาท
--อินโฟเควสท์ โดย พรเพ็ญ ดวงเฉลิมวงศ์/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--