นายสัญชัย ปอปลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.คริปโตมายด์ แอดไวเซอรี่ ระบุว่าระยะยาวราคาบิทคอยน์น่าจะสูงถึงประมาณ 80,000-100,000 ดอลลาร์สหรัฐภายในปีครึ่งหรือ 2 ปีข้างหน้า โดยทิศทางครึ่งปีหลัง 66 แนวโน้มตลาดคริปโทเคอร์เรนซี่จะฟื้นตัวได้ดี จากการที่สถาบันการเงิน หรือนักลงทุนรายใหญ่เริ่มเข้ามามีบทบาทในตลาดคริปโทมากขึ้น โดยเฉพาะตลาดคริปโทในไทย ซึ่งอยู่ในช่วงที่สถาบันต่าง ๆ ยื่นขอใบอนุญาตในการทำธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล คาดว่าสิ้นปีนี้จนถึงต้นปีหน้าจะได้เห็นบริษัทใหญ่ในประเทศได้รับใบอนุญาตมากขึ้น ส่งผลดีต่อผู้บริโภคที่จะมีตัวเลือกในการซื้อขายได้บริการที่ดีกว่า เป็นการพัฒนาทั้งวงการไปด้วยกัน
นอกจากนี้ หลังจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และการซื้อขายสัญญาหลักทรัพย์ล้วงหน้าของฮ่องกง ได้ออกประกาศอนุญาตให้นักลงทุนรายย่อยสามารถเข้าซื้อขายแลกเปลี่ยนคริปโทได้อย่างถูกกฎหมาย ส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติมองว่าฮ่องกงจะเป็นศูนย์กลางด้านสินทรัพย์ดิจิทัล และตลาดคริปโทช่วงครึ่งปีหลังยังได้แรงหนุนจากบริษัทการเงินระดับโลกยื่นอนุมัติกองทุนซื้อบิทคอยน์แบบสปอต (Spot Bitcoin ETF) ทำให้ทั้งตลาดปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง
นายสัญชัย ระบุว่า ช่วงครึ่งปีหลังเป็นช่วงที่เหมาะกับการสะสมบิทคอยน์ (BTC) หรืออีเธอเรียม (ETH) ซึ่งยังเป็นเหรียญที่นำตลาดอยู่และเหมาะกับนักลงทุนมือใหม่ที่เข้ามาในตลาดคริปโท โดยช่วงนี้เหมาะกับการ DCA ให้กรอบต่ำสุดอยู่ที่ประมาณ 24,000- 25,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อบิทคยน์ แต่หากนักลงทุนต้องการลงทุนที่หลากหลายมากขึ้น แนะนำเหรียญที่ตามกระแสไม่ว่าจะเป็นเหรียญเลเยอร์ 2 Arbitrum(ARB) Optimism(OP) หรือเหรียญที่อยู่ในแพลตฟอร์ม Liquid Staking เช่น Rocket Pool (RPL) และ Lido (LDO)
สำหรับแผนธุรกิจของคริปโตมายด์ ในระยะสั้นมุ่งหน้าขยายสินทรัพย์ภายใต้การจัดการ (AUM) ใน บจ.เมอร์เคิล แคปปิตอล (Merkle Capital) ซึ่งเป็นผู้จัดการเงินทุนสินทรัพย์ดิจิทัลในเครือ Cryptomind Group เจรจาพูดคุยกับนักลงทุนสถาบันการเงินมากขึ้น ในส่วนของ Cryptomind Advisory อาจจะมีการร่วมมือกับองค์กรใหญ่ในฐานะเป็นที่ปรึกษาด้าน Digital asset transformation ในองค์กร และในวันที่ 11-12 พ.ย. 66 จะมีงาน Blockchain Thailand Genesis 2023 ซึ่งจะมีพาร์ทเนอร์จากทั่วโลกมาร่วมงาน