COCOCO ได้ฤกษ์ส่ง IPO เข้าเทรด SET ปลาย ส.ค.จัดเงินระดมทุนขยายกำลังผลิตเสริมแกร่ง

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday July 20, 2023 18:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

COCOCO ได้ฤกษ์ส่ง IPO เข้าเทรด SET ปลาย ส.ค.จัดเงินระดมทุนขยายกำลังผลิตเสริมแกร่ง

นายวรวัฒน์ ชิ้นปิ่นเกลียว ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไทย โคโคนัท (COCOCO) กล่าวว่า บริษัทคาดว่าจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ในช่วงกลางเดือน ส.ค.และน่าจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ (SET) ในหมวดธุรกิจ (Sector) อาหารและเครื่องดื่ม ภายในปลายเดือน ส.ค.66 หลังจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้นับหนึ่งไฟลิ่งไปแล้วตั้งแต่วันที่ 13 ก.ค.66

COCOCO จะเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 370 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท คิดเป็น 25.17% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดภายหลัง IPO ไทย หรือ SET ในหมวดธุรกิจ (Sector) อาหารและเครื่องดื่ม ภายในปลายเดือนส.ค.66

COCOCO ได้ฤกษ์ส่ง IPO เข้าเทรด SET ปลาย ส.ค.จัดเงินระดมทุนขยายกำลังผลิตเสริมแกร่ง

บริษัทเป็นผู้ประกอบธุรกิจผลิต-จำหน่ายและส่งออก ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่แปรรูปจากมะพร้าวและผลไม้รายใหญ่ของไทย เช่น กะทิบรรจุกระป๋อง กะทิบรรจุกล่องยูเอชที(UHT) กะทิพาสเจอร์ไรส์ น้ำมะพร้าวบรรจุกระป๋อง น้ำมะพร้าวกล่องยูเอชที (UHT) น้ำมะพร้าวพาสเจอร์ไรส์ ขนมมะพร้าว และอาหารสำเร็จรูป ภายใต้ตราสินค้า Thaicoco, Cocoburi รวมถึงการผลิตสินค้าเพื่อการอุตสาหกรรม

นอกจากนี้ ยังประกอบธุรกิจผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงแบบเปียกเพื่อสุขภาพสำหรับสุนัขและแมวภายใต้ตราสินค้าMoochie โดยสินค้าทั้งสองประเภทมีทั้งแบบ การจำหน่ายภายใต้ตราสินค้าของบริษัทเอง และการรับจ้างผลิตสินค้า(OEM) ซึ่งจัดจำหน่ายทั้งภายในประเทศและต่างประเทศกว่า 90 ประเทศทั่วโลก รวมถึงการเป็นผู้ผลิต จัดจำหน่ายสินค้าอาหารเพื่อสุขภาพจากโปรตีนพืช และผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ชีสและเนยประเภทต่างๆ ที่ทำจากพืช

COCOCO ได้ฤกษ์ส่ง IPO เข้าเทรด SET ปลาย ส.ค.จัดเงินระดมทุนขยายกำลังผลิตเสริมแกร่ง

นายวรวัฒน์ กล่าวว่า บริษัทมีแผนจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปใช้ 1. ขยายกำลังการผลิตผลิตภัณฑ์จากมะพร้าว ซื้อเครื่องจักรและอุปกรณ์ เพื่อขยายกำลังผลิตน้ำมะพร้าวจาก 110,000 ตัน/ปี เป็น 218,000 ตัน/ปี รวมถึงขยายคลังสินค้า 2. ซื้อเครื่องจักรและอุปกรณ์เพื่อขยายประเภทสินค้าในกลุ่มขนมกินเล่นของสุนัขและแมว 3. ซื้อเครื่องจักรและอุปกรณ์เพื่อขยายประเภทสินค้าไอศกรีม, 4. ชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน และ 5. ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ (Working Capital)

สำหรับการขยายกำลังการผลิตน้ำมะพร้าวคาดว่าจะติดตั้งเครื่องจักรใหม่ได้ในเดือน ส.ค.นี้ โดยจะพร้อมผลิตเชิงพาณิชย์ได้ภายในไตรมาส 4/66 ซึ่งจะสนับสนุนให้มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเต็มที่ทันที สามารถรองรับออเดอร์ที่ขณะนี้มีเข้ามาเป็นจำนวนมาก ปัจจุบันบริษัทมีออเดอร์ยาวไปจนถึงปีหน้าแล้ว ช่วยสนับสนุนผลการดำเนินงานของบริษัทให้เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ

COCOCO มีฐานะทางการเงินแข็งแกร่งจากผลการดำเนินงานในช่วง 3 ปีย้อนหลัง คือ ปี 63-65 บริษัทมีรายได้รวม 3,036.33 ล้านบาท 3,481.71 ล้านบาท และ 3,381.16 ล้านบาท ตามลำดับ และมีกำไรสุทธิ 69.46 ล้านบาท 241.88 ล้านบาท และ 302.22 ล้านบาท ตามลำดับ โดยอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 2.29%, 6.95% และ 8.94% ตามลำดับ

และในไตรมาส 1/66 บริษัทมีรายได้รวม 859.20 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.36% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/65 ที่มีรายได้ 839.42 ล้านบาท และมีกำไร 66.90 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.55% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/65 ที่มีกำไรสุทธิ 61.63 ล้านบาท สะท้อนถึงการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

นายเสกสรรค์ ธโนปจัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฟิน พลัส แอดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน COCOCO กล่าวว่า COCOCO มีจุดโดดเด่น คือ ฐานลูกค้าในต่างประเทศ 90 ประเทศทั่วโลก ซึ่งครอบคลุมทุกทวีปทั่วโลก ทั้งในกลุ่มประเทศอเมริกาเหนือและใต้ กลุ่มประเทศยุโรป กลุ่มประเทศเอเชียแปซิฟิก กลุ่มประเทศเอเชียใต้ กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง กลุ่มประเทศโอเชียเนีย กลุ่มประเทศแอฟริกา และยังมีฐานลูกค้าในประเทศที่ดำเนินธุรกิจในอุตสาหกรรมอาหารและเป็นตัวแทนการส่งออกสินค้าไปยังต่างประเทศ รวมถึง COCOCO มีแผนการตลาดเพื่อนำผลิตภัณฑ์ไปจำหน่ายในกลุ่มประเทศใหม่ๆ เพื่อเพิ่มยอดขาย รวมทั้ง การขยายสินค้าใหม่เพิ่มเติมในแต่ละประเทศมากขึ้น

บริษัทมีรายได้จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์แปรรูปจากมะพร้าวและผลไม้ และการจำหน่ายอาหารสำเร็จรูปสัตว์เลี้ยงเป็นหลัก โดยจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยในปี 63-65 และงวด 3 เดือนแรกปี 66 บริษัทฯ มีสัดส่วนรายได้จากการจำหน่ายสินค้าต่างประเทศต่อในประเทศ คิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 83:17 ร้อยละ 85:15 ร้อยละ79:21 และร้อยละ 79:21 ของรายได้จากการขาย

ทั้งนี้ COCOCO มีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิจากงบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัทฯ ภายหลังจากหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและการจัดสรรทุนสำรองต่าง ๆ ทุกประเภทตามที่ได้กำหนดไว้ในกฎหมายและข้อบังคับของบริษัทฯ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ