บมจ.จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่(GRAMMY)มั่นใจรายได้ปีนี้ทะลุเป้า 8 พันล้านบาท หลังจากที่ไตรมาส 1/51 โชว์ผลงานดีเกินคาด แม้เผชิญวิกฤติรอบด้าน ขณะที่รายได้จากต่างประเทศจะมีความชัดเจนมากขึ้นในปีนี้ โดยเตรียมเดินทางไปเจรจาพันธมิตรทางธุรกิจที่ฮ่องกงเร็ว ๆ นี้ และออกโรดโชว์ตลาดต่างประเทศเพื่อเพิ่มสภาพคล่องหุ้น
นายไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม ประธานกรรมการ GRAMMY กล่าวว่า แนวโน้มรายได้ของกลุ่มในปีนี้น่าจะเกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ 8 พันล้านบาท โดยเฉพาะในส่วนของ บมจ. จีเอ็มเม มีเดีย (GMMM) รายได้จะอยู่ที่ 3.5 พันล้านบาท เป็นผลมาจากการบริหารต้นทุนที่ดีขึ้น ประกอบกับช่วง 2 ปีที่แล้วที่ธุรกิจบันเทิงตกต่ำ ทำให้บริษัทมีความกระตือรือร้นที่จะปรับปรุงธุรกิจมากขึ้น
รวมทั้งธุรกิจดิจิตอล ทั้งการดาวน์โหลดคอนเทนท์ต่าง ๆ การออกซิงเกิลอัลบั้มและเพลงใหม่ให้ดาวน์โหลดนั้น ผู้บริโภคให้การตอบรับเป็นอย่างดีในปีนี้ ทำให้ธุรกิจดิจิตอลทำกำไรให้กับบริษัทคิดเป็นสัดส่วน 60-70% ของกำไรทั้งหมด
สำหรับผลดำเนินงานในไตรมาส 1/50 ออกมาดีมาก แม้ว่าอุตสาหกรรมบันเทิงจะพบกับวิกฤติหลายด้าน ทั้งปัจจัยการเมือง และช่วงถวายความอาลัยการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระพี่นางฯ ทำให้ธุรกิจบันเทิงซบเซาชั่วขณะ แต่แกรมมี่สามารถทำผลงานได้เป็นที่น่าพอใจในทุก ๆ กลุ่มธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นทีวีและวิทยุ อีเวนท์
"ทีวี ดีขึ้นเยอะอย่างน่าตกใจ"นายถกลเกียรติ วีรวรรณ กรรมการ GRAMMY ซึ่งดูในส่วนของธุรกิจทีวี กล่าว
"อีเวนท์ไตรมาสแรกไม่ถึงกับแย่ ปานกลาง...แต่ไตรมาส 2 น่าจะดีขึ้น"นายเกรียงกานต์ กาญจนะโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บมจ.อินเด็กซ์ อีเวนท์ เอเจนซี่ กล่าว
"วิทยุ ปีนี้ดีขึ้น ตัวเลข Q1 ดีที่เดียว Q2 ก็โอเค 4 คลื่นที่เรามีอยู่ก็ไปได้ดี"นางสายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา ประธานกรรมการบริหาร บมจ.แกรมมี่มีเดีย(GMMM) กล่าว
ขณะที่ธุรกิจสิ่งพิมพ์ แม้ว่าตัวเลขผลประกอบการยังไม่ออกมาดีนัก แต่สิ่งพิมพ์ในเครือทุกตัวยังสามารถเอาตัวรอดได้ โดยคาดว่าในปีนี้ นิตยสาร In Magazine จะถึงจุดคุ้มทุน
"ธุรกิจสิ่งพิมพ์ ตัวเลขอาจยังไม่สวย แต่ก็เป็นทั้งอุตสาหกรรมที่สิ่งพิมพ์ Drop ลง เราเองก็ไม่แตกต่างจากคนอื่น แต่จะพยายามใช้ศักยภาพในกลุ่มช่วยผลักดัน ซึ่งในส่วนของนิตยสาร"In" ตั้งเป้า Break Event ในปีนี้"นายสุเมธ ดำรังชัยธรรม กรรมการ GRAMMY กล่าว
สำหรับการถือหุ้นในกลุ่ม บมจ.มติชน (MATI) และ บมจ. โพสต์ พับลิชชิ่ง (POST)นั้น นายไพบูลย์ กล่าวว่า คิดว่าในอนาคตอาจจะได้เห็นการ Synergy ระหว่างกัน เพียงแต่ต้องรอจังหวะและความเหมาะสม หลังจากที่ความขัดแย้งเมื่อครั้งที่บริษัทเข้าไปถือหุ้นได้คลี่คลายไปแล้ว
"เรายังถือหุ้นเท่าเดิม ไม่ซื้อเพิ่ม และก็ไม่ได้ขาย จากนี้อาจจะมีอะไรมา Synergy กัน"นายไพบูลย์ กล่าว
นายสุเมธ กล่าวเสริมว่า การลงทุนใน MATI และ POST ถือเป็น Good Investment แต่ช่วงนี้เราคงต้องดูแลตัวเองให้ดีก่อน เมื่อไหร่เกิดภาวะเงินท่วมๆ อาจได้เห็นการ Synergy กัน
ปัจจุบัน GMMM ถือหุ้น 23.60% ใน POST และ 20% ใน MATI
*เตรียมโรดโชว์ ตปท.ราว Q3/51
นายไพบูลย์ เปิดเผยว่า ในเร็ว ๆ นี้มีแผนจะเดินทางไปประเทศฮ่องกง เพื่อสร้างพันธมิตรทางธุรกิจในการทำธุรกิจร่วมกันในอนาคต และประมาณไตรมาส 3/51 มีแผนจะไปโรดโชว์ต่างประเทศ ทั้งในแถบเอเชีย ยุโรป และสหรัฐ เพื่อนำเสนอข้อมูลต่อนักลงทุนต่างประเทศ โดยเลื่อนไปจากเดิมที่มีแผนจะไปในช่วงไตรมาส 2/51 เนื่องจากยังมีปัจจัยการเมืองกดดันอยู่
"คิดว่าปีนี้คงจะมีการกำหนดรายได้จากต่างประเทศได้ชัดเจนขึ้น หลังจากไปฮ่องกง และมีการไปโรดโชว์ ซึ่งการโรดโชว์จะเป็นทางหนึ่งที่ช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้หุ้นแกรมมี่ด้วย"นายไพบูลย์ กล่าว
นายไพบูลย์ กล่าวอีกว่า บริษัทยังรอความชัดเจนในการจัดตั้งคณะกรรมการภายใต้ พ.ร.บ.กิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ทั้งการเปิดสถานีโทรทัศน์ใหม่ และการจัดสรรคลื่นความถี่วิทยุ ซึ่งบริษัทไม่ห่วงเรื่องดังกล่าว เนื่องจากมั่นใจในความพร้อมและศักยภาพของบริษัท ทั้งความเป็นมืออาชีพและในด้านเงินลงทุน ไม่ว่าจะมาลักษณะไหนบริษัทก็ตั้งรับได้หมด
--อินโฟเควสท์ โดย นิศารัตน์ วิเชียรศรี/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--