บล.ทรีนีตี้ แนะนำ "ซื้อ" หุ้นบมจ. ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก (OR) แต่ปรับราคาเป้าหมายลงเป็น 29.50 บาท จาก 2 ส่วนคือ 1.มูลค่าธุรกิจปัจจุบัน 18.00 บาท (PER 20x) บวก ด้วย 2.มูลค่าปัจจุบันของเงิน IPO ที่ไปลงทุนในอนาคตด้วยอัตราคิดลด 11.50 บาท
แนวโน้มผลดำเนินงานไตรมาส 2/66 คาดอ่อนตัวลงเหลือ 2.5 พันล้านบาท -62% YoY, -16% QoQ โดยลดลงค่อนข้างมากจากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องด้วยค่าการตลาดสูงผิดปกติ จากความผันผวนของราคาน้ำมันจากวิกฤตรัสเซีย-ยูเครน และลดลง QoQ จากค่าการตลาดที่อ่อนตัวลง
1.คาดปริมาณขายโดยรวมอยู่ที่ 6.8 พันล้านลิตร +4% YoY, -1% QoQ โดยปริมาณค้าปลีกเพิ่มขึ้น ในขณะที่ Commercial ลดลงจากกลุ่มโรงไฟฟ้ากลับไปใช้ก๊าซหลังจากที่ราคาก๊าซปรับลดลง
2.Gross Margin คาดว่าจะปรับลดงเหลือ 0.9 บาทต่อลิตร จากไตรมาส 2/65 ที่ 1.6 บาทต่อลิตรและไตรมาส 1/66 ที่ 1 บาทต่อลิตร จาก Margin ของ Commercial ลดลง
3.คาด ธุรกิจ Lifestyle (Non-Oil) มี EBITDA ที่ 1.4 พันล้านบาท -5% YoY, +18% QoQ ซึ่งคาดว่าจะมี EBITDA Margin ที่ 26% จากไตรมาส 2/65 ที่ 27% และไตรมาส 1/66 ที่ 24% ซึ่งบริษัทพยายามควบคุมในเรื่องของต้นทุนและค่าใช้จ่าย
*แนวโน้มไตรมาส 3/66 น่าจะอ่อนตัวตามฤดูกาล
แนวโน้มไตรมาส 3/66 ปริมาณขายน้ำมันคาดว่าจะอ่อนตัวตามผลของฤดูกาลที่เป็นช่วงหน้าฝน และไตรมาส 4/66 อาจจะมีค่าใช้จ่ายปลายปีที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้เรามีการปรับประมาณการกำไรปี 66-67 ลงเหลือ 1.1 และ 1.2 หมื่นล้านบาทตามลำดับ เป็นการปรับลดสมมติฐานปริมาณขายและค่าการตลาดลง