BGRIM ปรับขึ้น 2.04% หรือเพิ่มขึ้น 0.75 บาท มาที่ 37.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 48.22 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.29 น. จากราคาเปิด 36.75 บาท ราคาสูงสุด 37.75 บาท ราคาต่ำสุด 36.75 บาท
บทวิเคราะห์ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) บมจ. บี.กริม เพาเวอร์ (BGRIM) กำหนดส่งงบในวันที่ 15 สิงหาคม โดยคาดว่ากำไรสุทธิใน Q2/66 จะอยู่ที่ 605 ล้านบาท (+52% QoQ, พลิกฟื้น YoY) แต่หากไม่รวมผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน เราคาดว่ากำไรจากธุรกิจหลักจะอยู่ที่ 680 ล้านบาท (+79% QoQ. +363% YoY) ซึ่งจะทำให้กำไรจากธุรกิจหลักในงวด H1/66 อยู่ที่ 1.06 พันล้านบาท (+485% YoY) คิดเป็น 69% ของประมาณการกำไรปี 66 ของเรา เพราะผลการดำเนินงานของ SPP แข็งแกร่งขึ้น (ราคาก๊าซลดลง ในขณะที่ค่า Ft สูงขึ้น)
เรายังคงคำแนะนำซื้อ และประเมินราคาเป้าหมายปี 66 ที่ 43.00 บาท เลือก BGRIM เป็นหุ้นเด่นของเราในกลุ่มสาธารณูปโภคใน Q3/66 โดยเราคิดว่าโมเมนตัมของราคาหุ้นจะได้แรงหนุนจากผลประกอบการที่จะฟื้นตัวได้อย่างแข็งแกร่งในปีนี้ และความกังวลที่คลี่คลายลงไปเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองในประเทศ
ด้าน บล.ดาโอ (ประเทศไทย) คงแนะนา "ซื้อ" ให้ราคาเป้าหมาย 50.00 บาท อิง DCF (WACC 5.0%, TG 0%) โดยประเมินกำไรปกติ Q2/66 ที่ 684 ล้านบาท (+366% YoY, +81% QoQ) มีปัจจัยหนุนหลักจากการลดลงของค่าก๊าซธรรมชาติมา (-5% YoY, -17% QoQ) ซึ่งยังเป็น positive impact แม้ค่า Ft ปรับลงส่งผลให้ GPM คาดทำได้ 18% (+6.2ppt YoY, +2.8ppt QoQ) นอกจากนี้ยังรับรู้รายได้จากโครงการใหม่กำลังการผลิตรวม 339MWe (ทยอย COD ช่วง Q4/65-Q1/66) เข้ามาเต็มไตรมาสช่วยหนุน ยังคงประมาณการกำไรปกติปี 66 ที่ 2.1 พันล้านบาท (+459% YoY) แนวโน้ม H2/66 คาดทรงตัว HoH แม้มีโครงการใหม่รอ COD (รวม 214MWe) แต่เข้ามาช่วงปลายปีประเมินไม่ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ
ราคาหุ้นกลับมา outperform SET ได้ราว +4% ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ประเมินมาจากตลาด price in ความไม่แน่นอนทางการเมืองไปพอสมควร และคลายความกังวลจากแนวโน้มการลดลงขอค่า Ft แต่การลดลงไม่กระทบ GPM ในเชิงลบ เนื่องจากต้นทุนเชื้อเพลิงมีแนวโน้มปรับลดในอัตราที่มากกว่าคาด จะช่วยหนุนให้ผลประกอบการฟื้นตัวต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปี และเป็น catalystให้หุ้นยังคง outperform ได้ต่อ