บมจ.ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง (SNNP) เตรียมแตกไลน์เปิดตัวอาหารเสริมเกรดพรีเมียมในไตรมาส 4/66 เล็งยกขึ้นเป็นสินค้าเรือธง พร้อมทยอยออกสินค้าใหม่ต่อเนื่องผลักดันยอดขายครึ่งปีหลัง มั่นใจรายได้ปีนี้โต 2 หลัก ก่อนดันต่อแตะ 8 พันล้านบาทในปี 69 ให้เร็วกว่าแผน ส่วนฐานการผลิตในเวียดนามเร่งเครื่องเฟส 2 คาดผลิตปลายไตรมาส 3/66 คาดกวาดยอดขาย 2 พันล้านบาท/ปี พร้อมวางแผนขยายตลาดฟิลิปปินส์และอินโดนีเซีย
นายวิโรจน์ วชิรเดชกุล รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานธุรกิจในประเทศ SNNP เปิดเผยกับ "อินโฟเควสท์" ว่า บริษัทวางแผนออกสินค้าใหม่อย่างอาหารเสริมแบบพรีเมียมแมส ให้ผู้บริโภคใช้ได้ทุกวัน ราคาจับต้องได้ ปัจจุบันมีการสั่งซื้อเครื่องจักรเข้ามาแล้ว คาดว่าจะได้เห็นสินค้าดังกล่าวในช่วงต้นไตรมาส 4/66 ซึ่งอาจจะเป็นสินค้าเรือธงของ SNNP ในอนาคต
"วันนี้ถ้าไปดูสินค้าของเรา อย่างเจเล่จะเห็นว่าเรามี คอลลาเจน วิตามินซี มีวิตามินอยู่หลาย ๆ ชนิด ต้องบอกว่าเรามี Knowledge เรื่องพวกนี้อยู่แล้ว" นายวิโรจน์ กล่าว
บริษัทมั่นใจรายได้จากการขายปีนี้จะเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลัก จากปีก่อนที่ 5.5 พันล้านบาท คาดยอดขายครึ่งปีหลังมีทิศทางที่ดี หลังทยอยออกสินค้าใหม่อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ในไตรมาส 2/66 ทั้ง เจเล่ ชิววี่ 4 รสชาติใหม่, โลตัสหนังไก่กรอบ รสหม่าล่า, โลตัสขาไก่ รสหม่าล่า และเมจิคฟาร์มเฟรซในรูปแบบเยลลี่พร้อมดื่ม ส่วนในไตรมาส 3/66 - ไตรมาส 4/66 ก็ยังวางแผนออกสินค้าใหม่อีกราว 4-5 SKU สร้างความแข็งแกร่งให้ยอดขายช่วงครึ่งปีหลัง
"เป้ายอดขายที่เราเคยเขียนไว้ตั้งแต่เข้าตลาดฯ ว่ายอดขายจะถึง 8 พันล้านบาทภายใน 5 ปี (ปี69) ก็อาจจะเกิดขึ้นเร็วกว่านั้น อาจจะใช้เวลาแค่ 4 ปี หรือ 4 ปีครึ่ง" นายวิโรจน์กล่าว
ส่วนโรงงานในประเทศเวียดนามยังคงเป็นไปตามแผนที่แบ่งไว้ 3 เฟส เฟสแรกคือในปี 65 ไลน์ผลิตโลตัสขาไก่เดินเครื่องผลิตสินค้าออกจำหน่ายในตลาดเวียดนามเรียบร้อยแล้ว ส่วนเฟสสองในเดือน ก.ค.66 จะเป็นการทดสอบครั้งสุดท้ายในไลน์การผลิตของเบนโตะ ถ้าไม่ติดปัญหาก็จะสามารถผลิตสินค้าได้เลย ส่วนปลายไตรมาส 3/66 จะเริ่มไลน์ผลิตของเจเล่ตามแผนที่วางไว้ โดยประเมินไว้ว่าถ้าเดินเครื่องทั้ง 3 ไลน์ผลิตแบบเต็มกำลังการผลิต (Full Capacity) จะสามารถสร้างยอดขายได้ 2 พันล้านบาท/ปี
นายวิโรจน์ กล่าวอีกว่า เบื้องต้นโรงงานที่เวียดนามจะผลิตขายในตลาดเวียดนามเป็นหลัก แต่ในอนาคตเนื่องจากภาคเหนือของเวียดนามติดกับตอนใต้ของจีน เราอาจจะส่งสินค้าเข้าจีน ตอนนี้อยู่ระหว่างพูดคุยกับพาร์ทเนอร์ในจีน คาดว่าจะเห็นความชัดเจนในปีนี้
พร้อมทั้งมองการขยายตลาดไปยังประเทศอื่น ๆ อาทิ ฟิลิปปินส์ ที่ได้ลองกระจายสินค้าเจเล่ผ่าน Local Distributor เพื่อไปวางในเซเว่นและมินิมาร์ท ตอนนี้อยู่ในช่วงของการประเมินผลงาน ซึ่งอาจจะเห็นความชัดเจนช่วงต้นปีหน้า หลังจากนั้นจะค่อยทำแผนการตลาดต่อไป ส่วนอินโดนีเซียก็ยังไม่ได้เข้าไปทำอะไรมาก แต่ก็คาดว่าจะใช้โมเดลคล้าย ๆ กับฟิลิปปินส์
"ฟิลิปปินส์เป็นประเทศที่มีหลายเกาะ ถ้าเกิดเราทำตลาดได้ดี มีคนมาซื้อ แต่ไม่มีคนไปรีฟิลสินค้า เราก็สูญเสียทางโอกาส ฉะนั้นเราจึงต้องใช้เวลาประเมินตรงนี้" นายวิโรจน์ กล่าว
https://youtu.be/bZDxzxQJ0Uc