ตลาดหุ้นไทยช่วงภาคบ่ายปรับตัวลงต่อเนื่องไปกว่า 20 จุด ตอบรับความกังวลเกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาลยืดเยื้อออกไป หลังจากศาลรัฐธรรมนูญ เลื่อนการพิจารณารับคำร้องผู้ตรวจการแผ่นดินกรณีเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรีรอบ 2 หรือไม่ ออกไปเป็นวันที่ 16 ส.ค.66 และประธานรัฐสภาก็สั่งเลื่อนการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในวันที่ 4 ส.ค.นี้ออกไปก่อน
ประกอบกับปัจจัยต่างประเทศกดดันด้วย โดยตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดลบ ขายทำกำไรลดความเสี่ยงก่อนการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ที่ตลาดคาดว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.25% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 15 ปีในการประชุมวันนี้ (3 ส.ค.) และจะเป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยติดต่อกัน 14 ครั้ง
เมื่อเวลา 15.00 น.ดัชนี SET อยู่ที่ 1,530.21 จุด ลดลง 20.07 จุด (-1.29%)
นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยภาคบ่ายปรับตัวลงไปกว่า 20 จุด รับแรงกดดันทั้งปัจจัยภายในประเทศ หลังจากประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะประฐานรัฐสภา สั่งเลื่อนการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในวันที่ 4 ส.ค.นี้ออกไปก่อน เพื่อรอศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาว่าจะรับหรือไม่รับคำร้องปมเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรีรอบ 2 ในวันที่ 16 ส.ค.66 ส่งผลให้การจัดตั้งรัฐบาลต้องยืดเยื้อออกไปอีก 2 สัปดาห์
รวมถึงปัจจัยภายนอกประเทศ จากนักลงทุนเทขายทำกำไรภายหลังตลาดหุ้นยุโรปเปิด และขายลดความเสี่ยงก่อนการประชุม ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ในวันนี้ โดยตลาดคาดว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25%
ให้แนวรับไว้ที่ 1,520 จุด และแนวต้านที่ 1,540 จุด แนะนักลงทุนเลือกลงทุนในหุ้นที่คาดว่าผลประกอบการไตรมาส 2/66 จะออกมาดีเป็นหลัก