J Ventures พร้อมเป็นผู้นำด้าน Corporated Web 3.0 and Digital Transformation ในประเทศไทย ประกาศลุยตลาด B2B ในแบบ B2B2C ไตรมาส 3-4/66 แต่งตั้งนายธนวินท์ รัฐเมธา ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี และบล็อกเชน เข้ารับหน้าที่เป็น DCEO รับบทบาทที่ปรึกษาการ Digital Transformation (DX) ให้กับลูกค้าบริษัทองค์กร พร้อมส่งนายวรพจน์ ธาราศิริสกุล สู่บทบาท JFIN Minister มุ่งสร้างขยายบล็อกเชน JFIN Chain เพื่อขับเคลื่อน Ecosystem ที่แข็งแกร่ง ตามวัตถุประสงค์ สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนแก่ลูกค้าและพันธมิตร
การจัดทัพผู้บริหารของ J Venture เพื่อบุกตลาด B2B โดยเน้น B2B2C นายธนวัฒน์ เลิศวัฒนารักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า จากที่บริษัทวาง roadmap การเติบโตของธุรกิจในระยะเวลา 5 ปี โดยแบ่ง Business Model ออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ 1. Venture Builder - ฝั่งการลงทุนและความร่วมมือในพันธมิตร 2. Digital Transformation Consulting Service - ฝั่งกลุ่มธุรกิจองค์กร (B2B) ที่ต้องการทรานสฟอร์มในแบบ DX ด้วย Strategy & Solutions และ 3. Blockchain & Products ? ฝั่งโลกบล็อกเชน ต่อยอดจากการพัฒนา เทคโนโลยีบน JFIN Chain
ประกอบกับบริษัทเองก็ได้พัฒนาเครื่องมือ และโปรดักต์ที่ทำงานบนระบบ บล็อกเชนสำหรับองค์กร และธุรกิจ ซึ่งในแต่ละส่วน ก็ได้จัดผู้บริหารที่เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน บริหารงานและนำทัพแต่ละ Business Unit อย่างเข้มข้น
ในส่วนของ Venture Builder ที่ตนกำกับดูแล ได้มีการลงทุนในบริษัทลูกและสตาร์ทอัพจำนวน 13 บริษัท โดยมองหาบริษัทที่มีความน่าสนใจ มีศักยภาพเติบโต และสามารถเสริมความแข็งแกร่งให้กับบริษัทใน ecosystem ของเราได้ อีกทั้งในช่วงนี้เรายังได้ทำการศึกษาเรื่องของ Virtual Bank ตาม direction ของบริษัทแม่อย่างเจมาร์ท โฮลดิ้งอย่างต่อเนื่อง
ด้านนายธนวินท์ กล่าวถึงการรับตำแหน่งรองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (DCEO) ว่า ในปีนี้ J Vanture เดินตามวิสัยทัศน์ที่มีเป้าหมายสร้าง The Real Corporate Digital Transformation ให้เกิดขึ้นในประเทศไทย ด้วยความพร้อมด้าน Blockchain Products & Solutions ที่เรามีสร้างความแตกต่างจาก DX อื่นในตลาดได้ ที่ผ่านมาเราได้นำเทคโนโลยีบล็อกเชน เข้ามาใช้ในโลกธุรกิจ และองค์กรมากมาย ตัวอย่าง success case ในเครือเดียวกัน เช่น กลุ่ม JMART ที่มีทั้งสุกี้ตี๋น้อย และซิงเกอร์ เป็นต้น โดยจุดแข็งที่เราเตรียมมอบให้กับลูกค้าคือเรา ?มีของ? หรือที่เราเรียกว่า ?Blockchain Products & Solutions?"
"ผมให้ความสำคัญกับการทำ Strategy & Solution แก่ลูกค้าโดยให้ลูกค้าเป็นศูนย์กลาง เรามองตัวเองว่าเป็น Consulting Service เช่น ในมุมของ Strategy ลูกค้ายังไม่รู้ว่าจะเริ่มอย่างไร ไม่รู้ว่าบล็อกเชนคืออะไร เราพร้อมจัดเวิร์คช็อปสร้างความรู้ให้ เวลาที่เราเดินไปหาลูกค้า เราจะฟังเขาก่อนว่าเขาอยากทำแบบไหน มีเป้าหมายธุรกิจอย่างไร จากนั้นจึงนำมาวิเคราะห์ ว่าเราจะเอา เทคโนโลยีไปช่วยลูกค้าได้อย่างไร ส่วนในมุมของ Solution สิ่งที่เป็นจุดแข็งและทำให้เราแตกต่าง คือเราไม่ได้มีแค่ไอเดีย แต่เรามีทั้งเครื่องมือ และโซลูชันที่พร้อมจะให้ลูกค้า Jump Start ได้ไวขึ้น ฉะนั้นสิ่งที่เราเน้นหนักมากในมุมของการทำให้เกิด The Real Corporate Digital Transformation คือ การทำ Strategy และ Solution" ธนวินท์ กล่าวถึงทิศทางการให้บริการกลุ่มธุรกิจองค์กรภายหลังเข้ารับตำแหน่ง
ในส่วนงาน ?Blockchain & Products? มี JFIN Minister นายวรพจน์ กล่าวว่า ด้วยเป้าหมายมุ่งบริหารงานสร้างเครือข่ายขยายพันธมิตร เพื่อทำให้กลุ่มบล็อกเชน และ Ecosystem ของ JFIN เติบโตต่อเนื่อง
"หน้าที่ของ JFIN Minister คือ ดูแลการเติบโตของ JFIN ผ่านบล็อกเชนของเรา คือ JFIN Chain ดังนั้น ตนจึงเสมือนเป็นตัวแทนของหมู่บ้าน JFIN ทำหน้าที่สร้างเครือข่ายระหว่างคน ในโลกบล็อกเชน โลกธุรกิจ และคอมมูนิตี้ ให้มาอยู่ใน JFIN Chain เช่น ล่าสุดเราได้เชิญแอปพลิเคชัน เกี่ยวกับการออกกำลังกาย ที่มีคอนเซ็ปต์ ?Exercise to Earn ยิ่งเดินยิ่งได้เงิน? มาอยู่บน JFIN Chain ของเรา และเรายังขยายออกไปหาพันธมิตรกลุ่มอื่นๆ ในหลากหลายอุตสาหกรรม ด้วยเป้าหมายของเรา ที่ต้องการสร้าง Ecosystem ของ JFIN Chain ให้เติบโตต่อเนื่อง นำแอปพลิเคชันต่างๆ เข้ามาตอบโจทย์ สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้งาน และดึงดูดคนหน้าใหม่เข้ามาสู่โลกบล็อกเชนให้มากขึ้น"นายวรพจน์ กล่าว