นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร และหัวหน้าสายงานพัฒนาความยั่งยืนตลาดทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองในประเทศไทยว่า นักลงทุนชอบความชัดเจน เมื่อมีความชัดเจนทางการเมืองมากขึ้นนักลงทุนจะมั่นใจในการลงทุนตามไปด้วย ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น โดยนโยบายของรัฐบาลเป็นเรื่องสำคัญหากชัดเจนจะส่งผลดีต่อการลงทุน และจะทำให้มีการลงทุนในกลุ่มที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากนโยบายรัฐบาล
โดยปัจจัยที่จะกระทบต่อการลงทุนตลาดหุ้นไทยในปัจจุบันหลักๆเป็นปัจจัยภายนอก ทั้งการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ราคาน้ำมัน นโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศจีน ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างยูเครนและรัสเซีย และปัจจัยการเมืองในประเทศที่จะต้องดูประกอบกัน
ส่วนปัจจัยที่สนับสนุนตลาดหุ้นไทยหลัก ๆ มี 3 เรื่องประกอบด้วย 1) การฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศไทยที่สวนทางกับตลาดโลกซึ่งคาดว่าอยู่ในความเสี่ยงของการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย แต่ประเทศไทยได้รับแรงผลักดันจากการท่องเที่ยวซึ่งยังไม่รวมนักท่องเที่ยวในประเทศ โดยนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เข้ามาในประเทศแม้ว่าตัวเลขจะยังไม่มากเท่าก่อนเกิดโควิด-19 แต่ยังมีอัพไซด์อยู่ ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ดีกว่าปีที่แล้ว
อีกทั้ง 2) เรื่องผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งยอดขายสูงกว่าช่วงก่อนโควิดแล้วผลประกอบการของบริษัทฟื้นตัว รวมทั้งต้นทุนค่าพลังงานที่ก่อนหน้านี้ปรับสูงขึ้นก็เริ่มปรับลดลง และ3) ความกังวลเรื่องการขึ้นดอกเบี้ย ซึ่งตัวเลขเงินเฟ้อในประเทศไทยไม่สูงมาก จึงไม่ต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสูงเหมือนกับประเทศอื่น นอกจากนี้ยังมีเงินกองทุนสำรองในประเทศ ฐานเงินทุนของธนาคารต่างฯ ก็ยังถือว่าแข็งแกร่ง