HENG ดีดตัวขึ้น 4.35% หรือเพิ่มขึ้น 0.10 บาท มาที่ 2.40 บาท มูลค่าซื้อขาย 6.33 ล้านบาท เมื่อเวลา 11.20 น. จากราคาเปิด 2.32 บาท ราคาสูงสุด 2.40 บาท ราคาต่ำสุด 2.32 บาท
นายวิชัย ศุภสาธิตกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เฮงลิสซิ่ง แอนด์ แคปปิตอล (HENG) เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรกขยายพอร์ตสินเชื่อรวมเพิ่มเป็น 13,632.2 ล้านบาท เติบโต 13.4% ส่งผลให้มีรายได้รวม 1,335.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ตอกย้ำศักยภาพการดำเนินธุรกิจและขีดความสามารถการให้บริการสินเชื่อภายใต้แบรนด์ "เฮงลิสซิ่ง" หลังเปิดให้บริการครบทั้ง 830 สาขาส่งผลดีต่อผลงานในไตรมาส 2/66 ทำรายได้รวม 694.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41.6% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/65 มีปัจจัยจากพอร์ตสินเชื่อจำนำทะเบียนรถขยายตัวได้อย่างโดดเด่น หรือคิดเป็น 57.5% ของพอร์ตสินเชื่อที่มีหลักประกันโดยรวม
ขณะที่กำไรสุทธิในช่วงครึ่งปีแรกอยู่ที่ 181.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้ในไตรมาส 2/66 จะทำกำไรสุทธิได้ 80.5 ล้านบาท ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายด้านการลงทุนเปิดสาขาและบุคลากรเพิ่มขึ้น รวมถึงการตั้งสำรองตั้งสำรองลูกหนี้สินเชื่อส่วนเพิ่ม (Management Overlay) สูงขึ้นเพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านเครดิตก็ตาม
"แม้ผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 2 มีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น แต่เป็นการลงทุนเชิงกลยุทธ์ของ HENG ที่มุ่งขยายฐานลูกค้าใหม่ ๆ ให้เข้ามาใช้บริการ ซึ่งส่งผลดีต่อการดำเนินงานครึ่งปีหลังจากความสามารถในการตอบสนองความต้องการด้านสินเชื่อให้แก่ลูกค้าได้ดีอย่างต่อเนื่อง พร้อมกันนี้ เราจะมุ่งบริหารจัดการเก็บหนี้ให้มีประสิทธิภาพ เพื่อดูแลคุณภาพพอร์ตลูกหนี้ให้ดี และบริหารจัดการหนี้ NPLs ภาพรวมทั้งปีลดลงเหลือ 2.9% ให้ได้ตามแผน" นายวิชัย กล่าว
ส่วนแผนดำเนินงานครึ่งปีหลัง ประเมินว่าแนวโน้มความต้องการสินเชื่อเพื่อนำไปประกอบอาชีพยังคงขยายตัวได้ดีอย่างต่อเนื่อง ซี่งบริษัทยังคงมุ่งเน้นการปล่อยสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ โดยนำข้อได้เปรียบเชิงการแข่งขันจากการมีเครือข่ายผู้ประกอบการเต็นท์รถมือสองกว่า 6,500 ราย เพื่อแนะนำลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการที่สาขา "เฮงลิสซิ่ง" ผลักดันสินเชื่อให้ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
โดยในไตรมาส 3 เป็นช่วงฤดูการเพาะปลูก เป็นโอกาสของบริษัทในขยายฐานลูกค้าเกษตรกร จึงได้ดำเนินแคมเปญสินเชื่อเพื่อการเกษตรรองรับความต้องการแหล่งเงินทุนที่จะส่งผลดีต่อภาพรวมของพอร์ตสินเชื่อรวมในปีนี้ทำได้ 14,400 ล้านบาทตามเป้าหมาย ขณะเดียวกันบริษัทยังมีแผนออกและเสนอขายหุ้นกู้รองรับแผนดำเนินงานในปีถัดไปเพื่อสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนที่ดีต่อไป