นายสมศักดิ์ ศิริชัยนฤมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บมจ. แนท แอบโซลูท เทคโนโลยีส์ (NAT) เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ยื่นคำขออนุญาตเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนครั้งแรกต่อประชาชน (IPO) พร้อมแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (แบบ Filing) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) และยื่นคำขอให้รับหุ้นสามัญเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2566 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
NAT มีทุนจดทะเบียน 164 ล้านบาท เป็นทุนชำระแล้ว 118 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท โดยจะมีทุนจดทะเบียนหลัง IPO ที่ 164 ล้านบาท เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 92 ล้านหุ้น สัดส่วนหุ้นที่เสนอขายคิดเป็น 28.05% ของจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดที่ออกและจำหน่ายแล้วของบริษัท ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญในครั้งนี้ และจะนำหุ้นสามัญของบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai
ด้านนางสาวมธุรส สาราณียะธรรม กรรมการผู้จัดการ APM ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า การระดมทุนและเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai จะช่วยเพิ่มศักยภาพ ขยายโอกาสต่อยอดธุรกิจให้มีความมั่นคง และเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน นอกจากนี้ยังได้รับความน่าเชื่อถือจากลูกค้า คู่ค้า และสถาบันการเงินมากยิ่งขึ้น สร้างความยั่งยืนให้กับองค์กรในระยะยาว
ขณะที่ นายสุธี อภิชนรัตนกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร NAT เปิดเผยว่า บริษัทมีความพร้อมในการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai โดยวัตถุประสงค์ของการระดมทุนในครั้งนี้ เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนรองรับการขยายกิจการและงานโครงการต่าง ๆ ที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต โดยมุ่งเน้นการพัฒนาโซลูชั่นด้วยการใช้เทคโนโลยีชั้นนำ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่หลากหลาย โดยเฉพาะด้านเทคโนโลยีความปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cyber Security)
NAT เป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน Infratech ในส่วนงานโครงสร้างระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร บริการด้านเทคโนโลยีครบวงจรแก่องค์กรชั้นนำของประเทศ ที่มีประสบการดำเนินงานมากว่า 19 ปี โดยมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาองค์กร เพื่อส่งมอบโซลูชั่นที่ดีที่สุด และเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนธุรกิจไปสู่ยุคเทคโนโลยีดิจิทัล หรือ Digital Transformation ด้วยการให้บริการดังนี้
1. ธุรกิจจำหน่ายอุปกรณ์พร้อมติดตั้ง และรับเหมาวางระบบที่เกี่ยวข้องกับระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Information and Communication Technology System Integration) ซึ่งประกอบด้วยงานระบบโครงสร้างพื้นฐานไอที (IT Infrastructure Solution) งานระบบเครือข่ายโครงสร้างพื้นฐาน (Network Infrastructure Solution) งานด้านระบบคลาวด์ (Cloud Solution) งานระบบการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cyber Security Solution) งานระบบศูนย์ข้อมูล (Data Center Solution) และงานระบบการติดต่อสื่อสารแบบครบวงจร (Digital Collaboration Solution) ด้วยมาตรฐานอุปกรณ์และเทคโนโลยีที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก และ 2. ธุรกิจให้บริการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท ได้แก่ บริษัท นภาสุ จำกัด (ถือหุ้นโดยนายสุธี อภิชนรัตนกร) ถิอ 50% หลังขายหุ้น IPO สัดส่วนจะลดลงเหลือ 35.98% บริษัท โปรฟิต เอกเซลเล้นซ โฮลดิ้ง จำกัด (ถือโดยนายสหทัศน์ ตรีเมธสุนทร) ถือ 50% จะลดลงเหลือ 35.98%
ในปี 2563 ปี 2564 ปี 2565 และงวด 3 เดือน ปี 2566 บริษัทมีรายได้รวมจำนวน 492.64 ล้านบาท 451.36 ล้านบาท 1,098.48 ล้านบาท และ 358.76 ล้านบาท ตามลำดับ และบริษัทมีกำไรสุทธิในช่วงดังกล่าว จำนวน 56.78 ล้านบาท 26.68 ล้านบาท 107.03 ล้านบาท และ 26.76 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิเท่ากับ 11.53% 5.91% 9.74% และ 7.46% ตามลำดับ
บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิ (งบการเงินเฉพาะกิจการ) หลังหักเงินสำรองต่าง ๆ ทุกประเภทตามที่กำหนดไว้ในกฎหมาย และข้อบังคับของบริษัทในแต่ละปี แต่จะต้องไม่มีขาดทุนสะสมในส่วนของผู้ถือหุ้น