นายปิยะ เตชากูล กรรมการผู้จัดการ บมจ.เอทีพี 30 (ATP30) เปิดเผยว่า ผลประกอบการครึ่งปีแรก 2566 บริษัทมีรายได้รวม 327.92 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 311.88 ล้านบาท จำนวน 16.04 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 5.14% และมีกำไรสุทธิ 10.25 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 24.27 ล้านบาท จำนวน 14.02 ล้านบาท
ส่วนผลประกอบการไตรมาส 2/66 บริษัทมีรายได้รวม 161.00 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 158.72 ล้านบาท จำนวน 2.28 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 1.44% และมีกำไรสุทธิ 7.21 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 11.07 ล้านบาท จำนวน 3.86 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม บริษัทมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 1/66 ที่มีกำไรสุทธิ 3.04 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 4.17 ล้านบาท หรือ 137.17% ประกอบกับบริษัทบริหารจัดการต้นทุนที่ดีขึ้น ส่งผลให้มีกำไรขั้นต้น 26.77 ล้านบาท หรืออัตรากำไรขั้นต้น 16.69% เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนที่มีกำไรขั้นต้น 25.18 ล้านบาท หรืออัตรากำไรขั้นต้น 15.15% ซึ่งถือว่ามีแนวโน้มที่ดีขึ้น
ผลประกอบการของบริษัทปรับตัวสูงขึ้น จากการให้บริการลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่ที่เพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งปีแรกจำนวน 40 คัน ขณะที่กำไรสุทธิปรับตัวลดลงเล็กน้อย เนื่องจากบริษัทมีค่าใช้จ่ายต่อเนื่องในการปรับปรุงสภาพรถเพื่อให้บริการลูกค้าที่ใช้บริการครบกำหนดสัญญายังคงใช้รถเดิมต่อไปในระยะยาว อีกจำนวน 6 คัน คิดเป็นค่าใช้จ่ายประมาณ 2 ล้านบาท
สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจไตรมาส 3/66 แนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง โดยบริษัทมีประเภทรถที่ให้บริการหลากหลาย อาทิ รถบัส มินิบัส รถตู้ และรถเก๋งให้เช่า รวมถึงมีการบริหารจัดการเส้นทางการเดินรถ ประกอบกับราคาน้ำมันซึ่งเป็นต้นทุนหลักของบริษัทปรับตัวลดลง จากกลยุทธ์การบริหารจัดการต้นทุนต่างๆ ส่งผลให้บริษัทมีความสามารถการทำกำไรที่ดีขึ้น อีกทั้งมีค่าใช้จ่ายในการเตรียมการให้บริการลดลงกว่าช่วงครึ่งปีแรก
นอกจากนี้ บริษัทเตรียมให้บริการลูกค้าใหม่ 6 ราย ได้แก่ บริษัท สยามคูโบต้า จำกัด บมจ.ฝาจีบ (SCS) จำกัด ฯลฯ ซึ่งจะสามารถรับรู้รายได้จากการให้บริการรถรับส่งพนักงานเพิ่มจำนวน 30 คันและให้บริการนักท่องเที่ยว บมจ.ท่าเรือราชาเฟอร์รี่ (RP) จำนวน 2 คัน ในไตรมาส 3/66 และต่อเนื่องไตรมาส 4/66 นี้ ซึ่งจากแผนการดำเนินการดังกล่าว เชื่อว่าผลประกอบการของบริษัทปีนี้จะเติบโตตามแผนที่วางไว้