นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดว่าแกว่งตัวขึ้นตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศที่ปรับตัวขึ้น รวมถึงตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ที่ปรับตัวขึ้น หลังจากเมื่อคืนนี้รายงานตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐออกมาต่ำกว่าคาดเล็กน้อย ทำให้ตลาดคาดว่าการพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มเห็นการส่งสัญญาณชะลอขึ้นดอกเบี้ย
อย่างไรก็ตามยังคงต้องติดตามปัจจัยการเมืองในประเทศต่อไปว่าจะมีการเดินหน้ารวมเสียงในการจัดตั้งรัฐบาลและโหวตนายกรัฐมนตรีอย่างไร ประกอบกับอาจจะมีแรงหนุนเข้ามาในหุ้นที่ถูกประกาศเข้าคิดคำนวณในดัชนี MSCI โดยให้แนวต้าน 1,545 จุด แนวรับ 1,525 จุด
*ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (10 ส.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,176.15 จุด เพิ่มขึ้น 52.79 จุด หรือ +0.15%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,468.83 จุด เพิ่มขึ้น 1.12 จุด หรือ +0.03% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,737.99 จุด เพิ่มขึ้น 15.97 จุด หรือ +0.12%
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดภาคเช้าที่ระดับ 19,319.91 จุด เพิ่มขึ้น 71.65 จุด หรือ +0.37% ขณะที่ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตเปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,254.48 จุด ลดลง 0.08 จุด หรือ -0.00%
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (10 ส.ค.66) 1,533.41 จุด เพิ่มขึ้น 5.11 จุด (+0.33%) มูลค่าซื้อขาย 57,881.49 ล้านบาท
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,130.15 ล้านบาท เมื่อวันที่ 10 ส.ค.66
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ย. (10 ส.ค.) ลดลง 1.58 ดอลลาร์ หรือ 1.9% ปิดที่ 82.82 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (10 ส.ค.) อยู่ที่ 11.62 เหรียญ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 35.11/12 อ่อนค่าเล็กน้อย หลังดอลลาร์พลิกแข็งค่า พร้อมเกาะติดการเมืองในประเทศ
- "รัฐบาล เพื่อไทย" 375 เสียง "ประวิตร" ส่งสัญญาณ พปชร.โหวตหนุน "เศรษฐา" ยกพรรค รอเสียบ รัฐบาลหลังได้นายกฯ ด้าน "สมศักดิ์" คืนชีพสามมิตรดีล "อนุชา-ธนกร" ดึง รทสช.เข้าร่วม ขณะที่ "เพื่อไทย" มั่นใจเสียงเกินกึ่งหนึ่ง รอดู วันโหวต จับตาศาลรัฐธรรมนูญ-รัฐสภาเล็ง โหวตนายกฯ 22 ส.ค.
- ครึ่งปีแรก 2566 ตลาด BEV โตเฉียด 500% "คลัง" หวั่นโมเมนตัมชะลอ เตรียมของบกลางอุดหนุนยานยนต์ไฟฟ้า 1 พันล้านบาท มาใช้อุดหนุนช่วงรอยต่อรัฐบาล จากยอดเต็มที่ประเมิน 3 พันล้านบาท หวัง กกต.ผ่อนผันให้ใช้งบเพราะเป็นมาตรการต่อเนื่อง ส่วนแพ็กเกจ EV 3.5 ต้องรอรัฐบาลใหม่ พร้อมเร่งศึกษาภาษีแบตอีวีและภาษีคาร์บอน รับมือมาตรการคุมปล่อยคาร์บอนของยุโรปและสหรัฐ
- ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน หรือ FETCO เผยดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนอยู่ในเกณฑ์ "ทรงตัว" ขณะนักลงทุนคาดหวังปัจจัยหนุนจากการจัดตั้งรัฐบาลและท่องเที่ยวฟื้นตัว ส่วนความไม่แน่นอนในการจัดตั้งรัฐบาลและการประกาศจะเก็บภาษีขายหุ้นเป็นปัจจัยฉุด
*หุ้นเด่นวันนี้
- CPALL (คิงส์ฟอร์ด) "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 72.50 บาท/หุ้น มีมุมมองที่เป็นบวกต่อ CPALL โดยคาดภาพรวมการฟื้นตัวของการดำเนินงานเป็นไปได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงครึ่งปีหลังนี้จากการที่มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น และจะพีคในช่วงไตรมาส 4/66 แม้จะมีค่าใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภคเข้ามากดดัน ขณะที่ปัจจัยลบในปีก่อนอย่าง การ rebrand Lotus และปรับปรุงระบบ IT และภาระดอกเบี้ยทะยอยมีน้ำหนักที่น้อยลงไป
- COM7 (ทิสโก้) ให้ราคาเป้าหมายพื้นฐาน 37.50 บาท/หุ้น จากการประกาศเข้าคิดคำนวณในดัชนี MSCI Global Small Cap ซึ่งคาดว่าราคาหุ้นจะตอบสนองในเชิงบวก
- WHAUP (กรุงศรี) "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 5 บาท/หุ้น มองกำไรไตรมาส 3/66 จะทรงตัว QoQ เนื่องจากกำไรที่คาดว่าจะสูงขึ้นของ SPP (ราคาขายลดลง 6% น้อยกว่าต้นทุนก๊าซธรรมชาติที่ลดลง 17%) จะชดเชยกับรายได้ที่น้อยลงจากค่าธรรมเนียมจากการขอใช้น้ำเกินกว่าที่จัดสรร แต่ราคาหุ้นลดลง 13% YTD ไม่ได้สะท้อนการฟื้นตัวของกำไรของ WHAUP ในปีนี้ (+91%) และจะเติบโตต่อเนื่องในปีหน้า (+31%) ณ ราคาปิดล่าสุด WHAUP ให้ TTR ที่น่าสนใจ 46%