บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่มีประกันชุดใหม่ในวงเงินไม่เกิน 500 ล้านบาทของ บมจ. ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น (TSTH) ที่ระดับ “A-" ในขณะเดียวกันยังประกาศคงอันดับเครดิตองค์กรของบริษัทที่ระดับ “A" และคงอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่มีประกันชุดเดิมของบริษัทที่ระดับ “A-" ด้วยแนวโน้ม “Stable" หรือ “คงที่"
โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงสถานะผู้นำในธุรกิจโรงงานสำเร็จรูปให้เช่า รายได้ที่สม่ำเสมอจากค่าเช่าโรงงานสำเร็จรูป และผลการดำเนินงานที่ดีของบริษัท นอกจากนี้ อันดับเครดิตยังพิจารณาถึงบรรยากาศการลงทุนในประเทศไทยที่ดีขึ้นจากนโยบายของรัฐบาลที่เน้นกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศและส่งเสริมการลงทุนจากต่างชาติ
แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable" หรือ “คงที่" อยู่บนพื้นฐานของการคาดการณ์ว่าบริษัทจะสามารถรักษาความเป็นผู้นำในตลาดโรงงานสำเร็จรูปให้เช่าเอาไว้ได้ รายได้ที่สม่ำเสมอจากโรงงานสำเร็จรูปให้เช่าของบริษัทคาดว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่องซึ่งจะช่วยรองรับความต้องการเงินทุนที่เพิ่มขึ้นสำหรับการพัฒนาเขตอุตสาหกรรมโลจิสติคส์
ทริสเรทติ้งรายงานว่า บริษัทไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น เป็นผู้นำในธุรกิจโรงงานสำเร็จรูปให้เช่าในประเทศไทย โดย ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2551 บริษัทมีโรงงานให้เช่าจำนวน 123 โรงซึ่งตั้งอยู่ในเขตนิคมอุตสาหกรรม 11 แห่ง และมีคลังสินค้าให้เช่าจำนวน 11 โรงตั้งอยู่ในเขตอุตสาหกรรมโลจิสติคส์และศูนย์คลังสินค้าของบริษัท โดยคิดเป็นพื้นที่รวม 384,080 ตารางเมตร ณ เดือนเมษายน 2551 ผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท ได้แก่ บริษัท สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จำกัด (มหาชน) (21.9%) กลุ่มผู้บริหารของบริษัท (9.4%) กลุ่มซิตี้เรียลตี้ (5.9%) และกองทุนเพื่อการร่วมลงทุน (6.1%) ความได้เปรียบในการแข่งขันของบริษัทมาจากประสบการณ์ที่ยาวนานในธุรกิจโรงงานสำเร็จรูปให้เช่า รวมทั้งความสามารถในการก่อสร้างโรงงานสำเร็จรูปตามมาตรฐานในราคาที่ต่ำกว่าคู่แข่ง ความได้เปรียบด้านต้นทุนจากการประหยัดจากขนาด และกลยุทธ์ในการบริหารจัดการการก่อสร้างโรงงานด้วยตนเอง จากการศึกษาของ CB Richard Ellis (CBRE) เมื่อประเมินจากพื้นที่โรงงานที่ให้เช่าแล้ว ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2550 บริษัทและกองทุนอสังหาริมทรัพย์ไทคอน (TFUND) มีส่วนแบ่งทางการตลาดรวม 68% ซึ่งสูงกว่าคู่แข่งรายอื่นๆ อันได้แก่ บมจ. ไทยพัฒนาโรงงานอุตสาหกรรม (TFD) และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทยอินดัสเตรียล1 ซึ่งมีส่วนแบ่ง 11% บมจ. เหมราชพัฒนาที่ดิน (HEMRAJ) 11% บริษัท ปิ่นทอง อินดัสเตรียล ปาร์ค จำกัด 7% และ บมจ. อมตะ คอร์ปอเรชัน (AMATA) 3%
ทริสเรทติ้งกล่าวว่า บริษัทไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น มีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง โดยมีรายได้จากค่าเช่าโรงงานและคลังสินค้าที่ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องเป็น 706 ล้านบาทในปี 2550 จาก 427 ล้านบาทในปี 2546 และ 591 ล้านบาทในปี 2548 นอกจากนี้ บริษัทยังมีรายได้จากการขายโรงงานอย่างต่อเนื่องให้แก่ TFUND ในช่วงปลายปี 2550 จำนวน 2,058 ล้านบาท ซึ่งทำให้อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัท ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2550 ดีขึ้นเป็น 44% แม้จะมีการลงทุนเพิ่มขึ้นในการสร้างคลังสินค้าให้เช่าก็ตาม
เศรษฐกิจไทยในปี 2551 มีแนวโน้มดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ รวมถึงมาตรการลดภาษีและนโยบายส่งเสริมการลงทุนของรัฐบาล อย่างไรก็ตาม ความไม่แน่นอนทางการเมืองในระยะสั้นของรัฐบาลชุดปัจจุบันยังเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ต้องระวัง
--อินโฟเควสท์ โดย นิศารัตน์ วิเชียรศรี/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--