SET ปิดวันนี้ที่ 1,520.73 จุด ลดลง 14.43 จุด (-0.94%) มูลค่าซื้อขาย 48,598.75 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ดัชนีปรับตัวลง โดยทำจุดต่ำสุด 1,517.34 จุด และทำจุดสูงสุด 1,535.97 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้เพิ่มขึ้น 152 หลักทรัพย์ ลดลง 344 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 145 หลักทรัพย์
นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.พาย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลง รับแรงกดดันจาก Sentiment ตลาดหุ้นทั่วโลกที่ปรับตัวลงกันถ้วนหน้า ไม่ว่าจะเป็น ฮ่องกง จีน สิงคโปร์ รวมถึงตลาดหุ้นยุโรป และดาวโจนส์ฟิวเจอร์ ขณะเดียวกันตลาดก็รับรู้ปัจจัยบวกไปค่อนข้างมากแล้ว โดยเฉพาะในเรื่องของการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีที่มาจากพรรคเพื่อไทย อีกทั้งยังมีแรง Sell on fact หลังผลประกอบการไตรมาส 2/66 ทยอยประกาศออกมา
นอกจากนี้ Bloomberg consensus ปรับลดคาดการณ์ EPS ตลาดหุ้นไทยลงเหลือ 91 บาท/หุ้น จากต้นปีอยู่ที่ 106 บาท/หุ้น ทำให้ P/E ตลาดปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 16.7 เท่า ซึ่งถือว่าไม่ถูกแล้ว
แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันพรุ่งนี้คาด ดัชนีฯ มีโอกาสเด้งจำกัด หลังพื้นฐานดูไม่ดี จากกำไรถูกปรับลงแรง ให้แนวรับไว้ที่ 1,510 จุด และแนวต้าน 1,530 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 3,246.75 ล้านบาท ปิดที่ 127.00 บาท ลดลง 1.00 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,693.39 ล้านบาท ปิดที่ 62.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,530.89 ล้านบาท ปิดที่ 161.50 บาท ลดลง 4.50 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,404.07 ล้านบาท ปิดที่ 36.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,386.53 ล้านบาท ปิดที่ 9.25 บาท ลดลง 0.10 บาท