นายมงคล ตั้งใจพิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บมจ.สีเดลต้า (DPAINT) เปิดเผยว่า บริษัทยังเร่งขยายธุรกิจหลัก คือ ตลาดสีทาอาคาร ทั้งในประเทศ ในกลุ่มร้านค้าปลีก ทั้งกลุ่มโมเดิร์นเทรด กลุ่มร้านค้าส่งและร้านค้าปลีกทั่วประเทศ โดยสำหรับกลุ่มสีทาอาคาร บริษัทจะมุ่งเน้นไปยังตลาดสีระดับพรีเมียมและระดับกลาง จากปัจจุบันบริษัทมีผลิตภัณฑ์นวัตกรรมครอบคลุมทั้ง Premium Quality Grade, High Quality Grade และEconomy Quality Grade และบริษัทยังมีแผนขยายช่องทางการจัดจำหน่ายอย่างต่อเนื่อง ทั้งใน Modern Trade/ Big Box, Modern Retail Shop, Traditional Trade, Online Market และ Projects
ขณะเดียวกัน เตรียมขยายตลาดไปในประเทศกลุ่ม CLMV โดยเฉพาะกัมพูชา และลาว ผ่านการจับมือกับพันธมิตรทางธุรกิจจัดตั้ง Distribution คาดว่าจะช่วยผลักดันสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 10% ภายใน 3 ปี จากปัจจุบันอยู่ประมาณ 5% รวมทั้งบริษัทฯ ตั้งเป้าหมายที่จะก้าวขึ้นสู่ผู้นำด้านสีแห่งนวัตกรรมและเคมีก่อสร้างแบบครบวงจร Top 3 ในอีก 5 ปี
DPAINT ได้ปรับกลยุทธ์ธุรกิจใหม่ เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำด้านสีแห่งนวัตกรรม และ เคมีก่อสร้างแบบครบวงจร ซึ่งในปีนี้บริษัทฯได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่มเคมีก่อสร้างแล้วมากกว่า 20 ผลิตภัณฑ์ โดยตั้งเป้าจะเปิดตัวเพิ่มให้ครบ 30 ผลิตภัณฑ์ เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าทุกกลุ่ม ได้อย่างครบถ้วน ปัจจุบันตลาดเคมีก่อสร้างมีมูลค่าสูงถึงประมาณ 17,000 ล้านบาท และ มีอัตราการเติบโตสูงประมาณ 20-30% ต่อปี ซึ่งถือเป็นการสร้างโอกาสทางธุรกิจในอนาคตให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง และสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นในระยะยาว
สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานของบริษัทฯในไตรมาส 2/66 บริษัทฯ มีรายได้รวม 247.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35.1 ล้านบาท หรือ 16.15% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้รวม 212.5 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 6.8 ล้านบาท
ทั้งนี้ ในงวด 6 เดือนแรกของปี 66 บริษัทฯ มีรายได้รวม 508 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 77.4 ล้านบาท หรือ 18 % เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 430.6 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 22.9 ล้านบาท
ปัจจัยที่สนับสนุนที่ทำให้รายได้เพิ่มขึ้น มีสาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของปริมาณการขายจากทุกช่องทางการจัดจำหน่าย และราคาขายเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะร้านค้าปลีก ซึ่งรวมถึงร้านค้าโมเดิร์นรีเทล โดยในงวด 3 เดือนปี 66 บริษัทฯและบริษัทย่อยมีรายได้จากการขายและบริการสุทธิ มาจากสีคุณภาพพิเศษ สีคุณภาพสูง และสีคุณภาพคุ้มค่าในสัดส่วน 39.9%, 30.9% และ 29.2% ตามลำดับ