นายปนายุ ศิริกระจ่างศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ทีบีเอ็น คอร์ปอเรชั่น (TBN) เปิดเผยว่า ทิศทางธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลัง ประเมินว่ายังมีการเติบโตที่ดีต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก โดยคาดว่าจะสามารถปิดดีลกลุ่มลูกค้ารายใหญ่ในกลุ่มสถาบันการเงินและประกันได้ และยังมีการรับงานอื่นต่อเนื่อง อาทิ กลุ่มยานยนต์ และค้าปลีก เป็นต้น อย่างไรก็ดี บริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรเพื่อรองรับงานในอนาคตที่มีเข้ามา รวมงานภาครัฐซึ่งมีมูลค่ามหาศาลเพิ่มขึ้นในอนาคต
ปัจจุบันบริษัทมีงานในมือ (Backlog) ณ สิ้นไตรมาส 2/66 มูลค่างานประมาณ 300 ล้านบาท คาดจะทยอยรับรู้รายได้ในช่วง 2 ไตรมาสหลังและปีหน้า โดยเฉลี่ย 4 ปีย้อนหลัง บริษัทมียอดขายเติบโตเฉลี่ย 30-40% ซึ่งในปี 66 บริษัทจะเน้นการเสริมศักยภาพทั้งทรัพยากรบุคคลและทักษะด้านเทคโนโลยีเพื่อที่จะสามารถรับงานได้เพิ่มมากขึ้น
ปัจจุบัน TBN เป็นผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม Mendix Low-Code ที่เชื่อมต่อการให้บริการเช่าพื้นที่บนคลาวด์จากผู้ให้บริการคลาวด์ชั้นนำของโลก (Cloud Services) เช่น Amazon Web Services รวมถึงผู้ให้บริการชั้นนำในไทย ซึ่งทำให้ TBN มีศักยภาพที่จะเป็นพาร์ทเนอร์ในการทำดิจิทัลโซลูชั่นจบครบในที่เดียว และยังช่วยเสริมสร้างให้นักพัฒนาไอทีเพื่อเสริมทักษะ Mendix Low-Code เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตแอปพลิเคชันได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้นเพื่อการทำ digital transformation อย่างสมบูรณ์แบบ
ผลประกอบการในงวด 6 ดือนแรกปี 66 บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 38.38 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.03 ล้านบาท หรือ 98% จากงวดเดียวกันของปีก่อน บริษัทมีรายได้จากการให้บริการ 219.34 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 61.29 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 39% โดยรายได้กลุ่มงานพัฒนาระบบดิจิทัลและงานบริการให้คำปรึกษา เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า 19.63 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 26% เนื่องจากจำนวนโครงการทั้งจากลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น ประกอบกับพนักงานที่รับเพิ่มในปี 64-65 มีความชำนาญในงานมากขึ้น ส่งผลทำให้รายได้ต่อหัวเพิ่มขึ้น
ขณะที่งานบำรุงรักษาระบบ งานสนับสนุนด้านเทคโนโลยี และคลาวด์ เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 40.52 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 51% ซึ่งสอดคล้องกับการเพิ่มขึ้นของงานโครงการ ประกอบกับบริษัทฯ มีฐานลูกค้าใหม่ที่ใช้ลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ Mendix และใช้บริการคลาวด์มากขึ้น รวมถึงลูกค้าเดิมมีปริมาณการใช้บริการเช่าพื้นที่คลาวด์เพิ่มขึ้น
"ผลประกอบการในงวด 6 เดือน ที่ออกมาเป็นที่น่าประทับใจทั้งรายได้และกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้น สาเหตุจากบริษัทฯ มีกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 6% จากกลุ่มงานพัฒนาระบบดิจิทัล และงานบริการให้คำปรึกษาเพิ่มขึ้น เนื่องจากในงวดนี้บริษัทฯ มีงานโครงการขนาดใหญ่ที่มาจากลูกค้ารายเดิม ซึ่งทีมงานมีความเชี่ยวชาญ ทำให้สามารถควบคุมต้นทุนในการให้บริการได้ดีขึ้น" นายปนายุ กล่าว
งวดไตรมาส 2/66 กำไรสุทธิอยู่ที่ 12.40 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.21 ล้านบาท หรือ 2% จากงวดเดียวกันของปีก่อน มีรายได้จากการให้บริการ 102.51 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 14.04 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 16% โดยรายได้กลุ่มงานพัฒนาระบบดิจิทัล และงานบริการให้คำปรึกษา ลดลง 5.01 ล้านบาท หรือลดลง 11% เนื่องจากในงวดเดียวกันของปีก่อน บริษัทฯ มีงานโครงการที่มีมูลค่าสูงที่ส่งมอบในระหว่างงวด โดยโครงการดังกล่าวจัดอยู่ในประเภทที่ต้องรับรายได้เมื่อสิ้นสุดโครงการ ( point in time) ตามมาตรฐานการรายงานการเงินฉบับที่ 15 ส่งผลให้ในงวดเดียวกันปีก่อน บริษัทมีรายได้สูงจากการรับรู้รายได้จากโครงการดังกล่าว
ส่วนงานบำรุงรักษาระบบ งานสนับสนุนด้านเทคโนโลยี และคลาวด์ เพิ่มขึ้น 19.14 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45% ซึ่งสอดคล้องกับการเพิ่มขึ้นของงานโครงการ ประกอบกับบริษัทฯ มีฐานลูกค้าใหม่ที่ใช้ลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ Mendix และใช้บริการคลาวด์มากขึ้น รวมถึงลูกค้าเดิมมีปริมาณการใช้บริการเช่าพื้นที่คลาวด์เพิ่มขึ้น