นายพลแสง แซ่เบ๊ กรรมการผู้อำนวยการ บมจ.โรแยล พลัส (PLUS) เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังของปี 66 นี้ บริษัทคาดว่าจะเห็นการฟื้นตัวที่ดีขึ้น จากการรับรู้กำลังการผลิตใหม่จากโครงการ Pet Aseptic (สายการผลิตขวดพลาสติก PET) และแนวโน้มการส่งออกคาดว่ายังแข็งแกร่งต่อเนื่อง ส่วนแนวโน้มราคาต้นทุนวัตถุดิบมองว่าไม่ได้แตกต่างจากปีที่ผ่านมา
นอกจากนี้ในช่วงไตรมาส 3/66 บริษัทมีแผนออกผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่อกระตุ้นยอดขายด้วย ซึ่งเป็นปัจจัยบวกให้ผลประกอบการของบริษัทในช่วงครึ่งปีหลังฟื้นตัว อีกทั้งมีปัจจัยหนุนจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง ประกอบกับแผนการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายของลูกค้าในสหรัฐฯ มีทิศทางที่ชัดเจนขึ้นส่งผลให้คำสั่งซื้อเข้ามาเพิ่มขึ้นในช่วงที่เหลือของปีนี้
"บริษัทจะเริ่มรับรู้รายได้จากกำลังการผลิตใหม่จากโครงการ Pet Aseptic ล็อตแรกภายในไตรมาส 3/66 โดยปัจจุบันมีคำสั่งซื้อของลูกค้ารองรับกำลังการผลิตในสายการผลิตขวด PET ไว้บางส่วนแล้ว จะหนุนรายได้ให้เติบโตและต้นทุนทรงตัว" นายพลแสง กล่าว
สำหรับผลประกอบการในงวดไตรมาส 2/66 บริษัทฯ มีรายได้รวม 428.1 ล้านบาท ลดลงจำนวน 15.1 ล้านบาท หรือร้อยละ 3.4 เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องมาจากลูกค้าทวีปอเมริกาอยู่ระหว่างการเจรจาเงื่อนไขการขยายช่องทางการจัดจำหน่าย ลูกค้าจึงมีการชะลอการนำเข้าสินค้า จึงทำให้แผนการขายไปทวีปอเมริกายังไม่เป็นไปตามเป้าหมาย
ส่วนการขายสินค้าในภูมิภาคอื่นๆ ช่วงไตรมาสที่ 2 ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องตามแผนกลยุทธ์การขยายฐานลูกค้าทางการตลาด โดยเฉพาะทวีปยุโรปมีการเติบโตสูงถึง 245.6%, ทวีปออสเตรเลียเติบโต 162.1%, ตะวันออกกลางโต 39.4%, ทวีปเอเชียเติบโต 37.2% และทวีปแอฟริกาเติบโต 26.4% ทำให้รายได้จากการขายสินค้าของบริษัทเพิ่มขึ้นจำนวน 179.4 ล้านบาท หรือร้อยละ 74.4 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า
บริษัทมีกำไรสุทธิในไตรมาส 2/66 อยู่ที่ 61.6 ล้านบาท คิดเป็นอัตราส่วนกำไรสุทธิร้อยละ 14.4 ของรายได้รวม ลดลงจำนวน 15.7 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราร้อยละ 20.3 เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน