นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล, CISA ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งไซด์เวย์ อาจจะอิงแดนลบเล็กน้อย หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี(Bond Yield)ปรับตัวสูงขึ้น และมีความกังวลตัวเลขเศรษฐกิจจีนซึ่งอ่อนแอกว่าที่คาดการณ์
นอกจากนี้นักลงทุนรอติดตามเรื่องการเมืองในประเทศ ซึ่งมีพัฒนาการเชิงบวก หลังพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) แถลงร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย ทำให้คาดว่าการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้าน่าจะผ่านไปได้ด้วยดี
พร้อมทั้งให้แนวรับ 1,510 จุด และแนวต้าน 1,535 - 1,540 จุด
ด้านบล.กรุงศรี มองแนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ ประเมิน SET แกว่งตัว 1,520 - 1,540 จุด ดัชนีได้แรงหนุนจากการเมืองภายในที่ชัดเจนมากขึ้นหลังพรรครวมไทยสร้างชาติ เข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย ประกอบกับความคาดหวังจีนออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ตาม ความกังวลเฟดเดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ยจากเงินเฟ้อสหรัฐที่สูงกว่าเป้าหมายเฟดที่ระดับ 2% ส่งผลให้ US Bond yield พุ่งขึ้นซึ่งเป็นลบต่อทิศทาง Fund flow และจะกดดันให้ดัชนีสลับอ่อนตัวลง
*ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (17 ส.ค.)ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,474.83 จุด ลดลง 290.91 จุด หรือ -0.84%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,370.36 จุด ลดลง 33.97 จุด หรือ -0.77% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,316.93 จุด ลดลง 157.70 จุด หรือ -1.17%
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดตลาดที่ระดับ 31,321.26 จุด ลดลง 304.74 จุด หรือ -0.96%, ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 18,208.98 จุด ลดลง 117.65 จุด หรือ -0.64% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 3,165.10 จุด เพิ่มขึ้น 1.36 จุด หรือ +0.04%
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (17 ส.ค.66) 1,528.81 จุด เพิ่มขึ้น 9.25 จุด (+0.61%) มูลค่าซื้อขาย 53,037.12 ล้านบาท
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 939.63 ล้านบาท เมื่อวันที่ 17 ส.ค.66
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ย. เพิ่มขึ้น 1.01 ดอลลาร์ หรือ 1.3% ปิดที่ 80.93 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (17 ส.ค.) อยู่ที่ 13.64 เหรียญ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 35.35 แข็งค่าตามภูมิภาค จับตาโหวตเลือกนายกฯ-ทิศทาง Flow
- นับถอยหลัง 4 วันโหวตนายกฯ รัฐบาลเพื่อไทยผนึก "รวมไทยสร้างชาติ" ร่วมรัฐบาลอีกพรรค ประกาศหนุน "เศรษฐา" นายกฯ "พีระพันธุ์" ลั่นไม่มีต่อรองเก้าอี้ ขณะที่ โผครม.ยังฝุ่นตลบ พรรคร่วมฯ จี้แกนนำเคลียร์ให้จบก่อนโหวตนายกฯ จับตาโควตา รมว.พลังงาน เพื่อไทยไม่ปล่อย ขณะที่ "เศรษฐา" ลุ้นฝ่าขวากหนาม สว.ตั้งป้อมขวาง "ชูวิทย์" คุ้ยเรื่องฉาวเขย่ารายวัน
- ศาลปกครองสูงสุดพิจารณาคดีหนี้ติดตั้งและเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว ตุลาการแถลงยืนตามคำพิพากษา ศาลปกครองกลางให้ กทม.และกรุงเทพธนาคม จ่ายค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุงตามสัญญา 1.1 หมื่นล้านบาท
- "ศาลแพ่ง" นัดไต่สวนคำร้องฟ้องสตาร์ค ของผู้ถือหุ้นกู้ นัดแรก 4 ก.ย. "ทนาย" แนะฟ้องกลุ่มเร็วกว่า ฟ้องคดีเพ่ง แต่ย้ำต้องมั่นใจตัวแทนกลุ่ม รักษาผลประโยชน์ทุกคนได้ เตรียมตั้งคณะทำงาน-ตัวแทนกลุ่ม เร่งฟ้องเรียกค่าเสียหาย
*หุ้นเด่นวันนี้
- SPRC (กรุงศรี) แนะนำ ซื้อ เป้า IAA Consensus 10.8 บาท ผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว ราคาหุ้นที่ปรับลงเป็นโอกาสเข้าซื้อ คาดหวังผลประกอบการพลิกมีกำไรสุทธิในไตรมาส 3/66 ตามราคาน้ำมันและค่าการกลั่นที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะค่าการกลั่นปรับขึ้นสู่ระดับ 13.64 ดอลลาร์/บาร์เรล ในปัจจุบัน จาก 4 ดอลลาร์/บาร์เรล ณ สิ้นไตรมาส 2/66
- TOP (กสิกรไทย) แนะนำซื้อ ราคาพื้นฐาน 55.7 บาท คาดผลประกอบการไตรมาส 3/66 ฟื้นตัวแรง จากค่าการกลั่นที่ฟื้นตัวได้ดี ประกอบกับคาดบริษัทมีบันทึก inventory gains พลิกจากที่มี inventory loss ในไตรมาสก่อนหน้าหลังราคาน้ำมันมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นในไตรมาสนี้
มองราคาหุ้นปรับลงมามากในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาหลังกระแสเงินลงทุนหมุนเปลี่ยนกลุ่มเล่นท่ามกลางความกังวลอุปสงค์จากจีนอ่อนแออีกทั้งราคาพลังงานมีการพักตัวกดดันราคาหุ้น TOP จนทำให้ upside valuation เปิด ขณะที่พื้นฐานหุ้นดีไม่ได้เปลี่ยน เรามองเป็นจังหวะการซื้อลงทุนหรืออย่างน้อย ก็สามารถเก็งกำไรระยะสั้นได้ตามราคาพลังงานที่รีบาวด์ช่วงข้ามคืน
- ORI (ฟินันเซีย ไซรัส) ยังแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 13.90 บาท โทนประชุมนักวิเคราะห์เป็นกลาง ผู้บริหารยืนยันทิศทางไตรมาส 3-4/66 จะเห็นการฟื้นตัว q-q ต่อเนื่อง ทั้งยอดขายและการโอน ภาพรวมตลาดคอนโดทยอยฟื้นตัวตามลำดับ ส่วนตลาดแนวราบเป็นลักษณะประคองตัวจากฐานสูงใน 2 ปีก่อนหน้าท่ามกลางการแข่งขันที่สูง ส่วนการระดมทุนผ่าน RealX Token มูลค่า 2.4-3 พันล้านบาท เบื้องต้นเราคาดคิดเป็นกำไรให้ ORI ราว 300-400 ล้านบาท รวมถึงการ Spin-off ONEO เข้าตลาดฯเป็นไปตามแผนในไตรมาส 4/66 เราคาดกำไรจะทยอยฟื้นตัว q-q ในไตรมาส 3/66 ก่อนจะทำจุดสูงสุดของปีในไตรมาส 4/66 คงคาดกำไรปี 66 ที่ 3.3 พันล้านบาท +27% y-y