แนวโน้มผลดำเนินงานในครึ่งปีหลังคาดว่าจะดีกว่าในช่วงครึ่งปีแรก จากการปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบัน เพื่อผลักดันให้ผลเรียกเก็บในปี 66 เป็นไปตามเป้าหมายที่ 1.78 หมื่นล้านบาท หลังจากครึ่งปีแรกทำได้แล้ว 7.35 พันล้านบาท โดยบริษัทตั้งเป้าผลเรียกเก็บในครึ่งปีหลังอีก 1.05 หมื่นล้านบาท คือ ไตรมาส 3/66 กว่า 4.5 พันล้านบาท และไตรมาส 4/66 อีกกว่า 5.4 พันล้านบาท
ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทสามารถช่วยเหลือลูกหนี้ปรับโครงสร้างหนี้ จำนวน 146,121 ราย คิดเป็นภาระหนี้กว่า 4.66 แสนล้านบาท และสามารถจำหน่ายทรัพย์ไปแล้ว จำนวน 49,216 รายการ คิดเป็นราคาประเมินราว 1.07 แสนล้านบาท โดยปัจจุบันบริษัทมีการบริหารจัดการในส่วนของหนี้ที่เป็น NPL ในพอร์ตมูลค่ากว่า 4.81 แสนล้านบาท และหนี้ NPA เกือบ 7 หมื่นล้านบาท
นายสันธิษณ์ วัฒนกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทำหน้าที่ผู้บริหารสูงสุดทางด้านการเงิน BAM กล่าวว่า การรับซื้อหนี้เข้ามาเพื่อขยายพอร์ตในช่วงครึ่งแรกของปี 66 ได้เข้าประมูลซื้อหนี้ NPL เข้ามาแล้วกว่า 2.24 หมื่นล้านบาท สูงขึ้นถึง 296% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีการซื้อทรัพย์มาบริหารเพียง 5.7 พันล้านบาท เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าสถาบันการเงินทยอยนำ NPL ออกมาประมูลขายในปริมาณมากอย่างต่อเนื่อง ขณะที่บริษัทยังอยู่ระหว่างรอผลการประมูล และทำ Due Diligence มูลค่าหนี้ที่สนใจจะเข้าซื้อรวม 7.12 หมื่นล้านบาท
ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้รายงานภาพรวม NPL ในระบบสถาบันการเงิน ณ ไตรมาส 1/66 อยู่ที่ 4.97 แสนล้านบาท คิดเป็น 2.67% ของสินเชื่อรวมในระบบสถาบันการเงิน จึงเป็นโอกาสที่ BAM จะเข้าประมูลซื้อ NPL เข้ามาเพิ่มอีกในอนาคต โดยแหล่งเงินทุนส่วนหนึ่งที่มารองรับนั้น บริษัทมีแผนออกหุ้นกู้ในช่วงเดือนก.ย.66 วงเงินราว 3-5 พันล้านบาท
สำหรับความคืบหน้าการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนกับสถาบันการเงิน ขณะนี้อยู่ระหว่างทำการศึกษากับธนาคารพาณิชย์รายใหญ่ 1 แห่ง คาดว่าจะได้ข้อสรุปในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้