นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดว่าแกว่งตัวไซด์เวย์อิงแดนบวก โดยติดตามการโหวตนายกรัฐมนตรีในช่วงบ่ายวันนี้ ซึ่งหากโหวตผ่านจะเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนดัชนีได้ และทำให้สามารถเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศได้ หลังเมื่อวานนี้มีความชัดเจนในการเปิดตัวพรรคร่วมรัฐบาล
ขณะที่ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียในช่วงเช้าวันนี้ส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้น แต่อย่างไรก็ตามยังคงต้องรอติดตามการประชุมแจ๊คสันโฮลในสัปดาห์นี้ว่าประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะส่งสัญญาณเกี่ยวกับทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐอย่างไร ซึ่งจะมีผลต่อตลาดหุ้น
ให้แนวต้าน 1,540 จุด แนวรับ 1,520 จุด
*ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (21 ส.ค.)ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,463.69 จุด ลดลง 36.97 จุด หรือ -0.11%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,399.77 จุด เพิ่มขึ้น 30.06 จุด หรือ +0.69% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,497.59 จุด เพิ่มขึ้น 206.81 จุด หรือ +1.56%
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดตลาดที่ระดับ 31,792.60 จุด เพิ่มขึ้น 226.96 จุด หรือ +0.72%, ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 17,641.86 จุด เพิ่มขึ้น 18.57 จุด หรือ +0.11% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 3,103.78 จุด เพิ่มขึ้น 10.8 จุด หรือ +0.35%
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (21 ส.ค.66) 1,525.85 จุด เพิ่มขึ้น 6.73 จุด (+0.44%) มูลค่าการซื้อขาย 46,018.47 ล้านบาท
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 396.58 ล้านบาท เมื่อวันที่ 21 ส.ค.66
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ย.(21 ส.ค.)ลดลง 53 เซนต์ หรือ 0.65% ปิดที่ 80.72 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (21 ส.ค.) อยู่ที่ 14.07 เหรียญ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 35.10 แข็งค่าจากวานนี้ ให้กรอบ 35.05-35.35 เกาะติดโหวตนายกฯ วันนี้
- สศช.หั่นจีดีพีปี 66 เหลือ 2.5-3.0% จากเดิม 2.7-3.5% รับการส่งออกหดตัวต่อเนื่อง ตั้งรัฐบาลช้า รายได้ท่องเที่ยวต่ำกว่าคาด แนะรัฐบาลใหม่แก้เศรษฐกิจให้ตรงจุด เน้นความยั่งยืนมากกว่ากระตุ้นระยะสั้น รักษาวินัยการคลัง รับมือเศรษฐกิจโลก "ทีดีอาร์ไอ" มองเศรษฐกิจไทยยังฟื้นตัวช้า "นิด้า" แนะรัฐบาลใหม่เร่งออกมาตรการกระตุ้นตรงจุดช่วยดันเศรษฐกิจโตได้ 3%
- จับตา 375 เสียงชี้ชะตา "เศรษฐา" นั่งนายกฯ ลุ้นดีลรัฐมนตรีแลกโหวต "ขั้วประยุทธ์-ประวิตร" ตัวแปรดันเสียงทะลุ 100 ด้าน "เศรษฐา" ลั่นยอมกลืนเลือด "ชลน่าน" พร้อมลาออกหัวหน้าพรรคเพื่อไทยรับผิดชอบคำพูดหลังโหวต นายกฯ มติ "ก้าวไกล" ไม่เห็นชอบ ย้ำ 3 จุดยืน ไม่หนุนรัฐบาลผสมข้ามขั้ว ขณะที่ประชาธิปัตย์ "งดออกเสียง"
- กรมธุรกิจพลังงาน(ธพ.)คาดการณ์การใช้น้ำมันเชื้อเพลิงครึ่งปีหลังโตต่อหนุนทั้งปีโต 2% จากปีก่อน จับตาปั๊ม LPG มิ.ย.66 เริ่มขยับเพิ่มหลังภาคขนส่งหันใช้เหตุราคาน้ำมันแพง ธพ.เร่งเพิ่มรางวัลนำจับสกัดปั๊มแก๊สเติม LPG ในถังครัวเรือน ลุ้นรัฐบาลใหม่มาทันเวลาชี้ชะตาดีเซลเกรดเดียว
*หุ้นเด่นวันนี้
- COM7 (กสิกรไทย) ราคาพื้นฐาน 35.07 บาท เก็งกำไรบนกำหนดการเปิดตัว iPhone 15 คาดยอดขายดี ตามกระแสอาจเห็น model change ที่มีความน่าสนใจ อีกทั้งผู้บริหารปรับกลยุทธ์เพิ่มประสิทธิภาพผลประกอบการโดยปิดสาขาไม่ทำเงิน สร้างรายได้
เพิ่มจากพื้นที่ให้เช่าและเพิ่มรายได้ของบริษัทจากการขายสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้า มองแนวโน้มผลประกอบการเติบโตสูง ขณะที่ Valuation ของหุ้นยังไม่แพง มี upside ส่วนต่างให้ลงทุน พร้อม yield ประมาณ 3%
- AEONTS (เมย์แบงก์) เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 210 บาท แนวโน้มกำไรในช่วงไตรมาส 2/67 น่าจะเร่มเห็นการฟื้นตัว แม้ว่าอัตราส่วน NPL อาจจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย จากสินเชื่อที่ปล่อยในช่วง Covid-19 แต่แนวโน้มจะค่อยๆลดลงและคุมได้จากมาตรการกระตุ้นการบริโภคเพิ่มรายได้ของรัฐบาลชุดใหม่ บวกกับราคาหุ้นอยู่ในจุดที่ตอบรับเชิงลบไปมากพอสมควร
- OSP (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 33 บาท แนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 3/66 คาดยังดูดี แม้รายได้อาจอ่อนลงเล็กน้อย q-q จากปัจจัยฤดูกาล แต่คาดได้อานิสงส์จากต้นทุนที่ปรับลงทั้งพลังงาน โดยเฉพาะก๊าซ หนุน Margin ฟื้นตัว เราคาดกำไรไตรมาส 3/66 จะกลับมาเติบโต y-y ได้เป็นครั้งแรกในรอบ 9 ไตรมาส เราคาดกำไรปกติปี 2566 ที่ 2.5 พันล้านบาท +29%y-y ในปี 2567 และคาดว่า OSP จะเป็นอีกหนึ่งหุ้นที่ได้อานิสงส์เชิงบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหลังจากจัดตั้งรัฐบาลใหม่สำเร็จ