นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ผลิตไฟฟ้า (EGCO) เปิดเผยว่า ทริสเรทติ้งได้ประกาศคงอันดับเครดิตองค์กรของเอ็กโก กรุ๊ป ในปี 2566 ที่ระดับ "AA+" ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นต่อความสามารถในการแข่งขันของบริษัทที่มีสถานะทางการตลาดที่เข้มแข็ง มีการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่และมีความหลากหลายทั้งด้านประเภทการผลิต ประเภทเชื้อเพลิง ทั้งพลังงานแบบดั้งเดิมและพลังงานหมุนเวียน และทำเลที่ตั้ง ซึ่งความหลากหลายดังกล่าวช่วยให้รายได้และกำไรของบริษัทมีความมั่นคงและสม่ำเสมอ นอกจากนี้ กระแสเงินสดของบริษัทยังมีความมั่นคงในระดับสูง เนื่องจากโรงไฟฟ้าส่วนใหญ่ของบริษัท มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาว 15-30 ปี
"การได้รับการจัดอันดับเครดิตองค์กรที่ระดับ AA+ ต่อเนื่องถึง 3 ปีซ้อน ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของ EGCO ในการรักษาความสามารถในการแข่งขันทั้งด้านธุรกิจและการเงิน ท่ามกลางความท้าทายที่เพิ่มขึ้นในยุคเปลี่ยนผ่านของอุตสาหกรรมพลังงาน ด้วยการบริหารธุรกิจภายใต้กลยุทธ์ 4S เพื่อสร้างรายได้ให้บริษัทอย่างรวดเร็วและเสริมความแข็งแกร่งให้ธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ได้แก่
1.Strengthen financial performance เสริมความแข็งแกร่งในการแข่งขันด้านการเงิน
2. Select high quality project ให้ความสำคัญกับการลงทุนในรูปแบบ M&A ทั้งโรงไฟฟ้า Conventional และ Renewable ที่มีประสิทธิภาพสูง เพื่อรับรู้รายได้ทันที
3. Speed up projects under construction เร่งรัดบริหารโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างให้แล้วเสร็จตามแผนงาน
4. Streamline portfolio and improve operation บริหารพอร์ตโฟลิโอ โรงไฟฟ้าที่มีอยู่ในปัจจุบัน 36 แห่ง และธุรกิจพลังงานที่เกี่ยวเนื่องให้มีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้ถือหุ้น อย่างยั่งยืน" นายเทพรัตน์ กล่าวสรุป
ปัจจุบัน EGCO มีกำลังผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้นรวมทั้งสิ้น 6,317 เมกะวัตต์ (รวมโรงไฟฟ้าที่เดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้วและโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง) โดยมีกำลังผลิตจากพลังงานหมุนเวียนรวม 1,363 เมกะวัตต์ (คิดเป็นสัดส่วน 22% ของกำลังผลิตทั้งหมด) ทั้งจากชีวมวล พลังน้ำ พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม เซลล์เชื้อเพลิง และระบบกักเก็บพลังงานด้วยแบตเตอรี่
ทั้งนี้ โรงไฟฟ้าและโครงการต่างๆ ตั้งอยู่ใน 8 ประเทศ ได้แก่ ไทย สปป.ลาว ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ออสเตรเลีย เกาหลีใต้ ไต้หวัน และสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ ยังมีธุรกิจพลังงานที่เกี่ยวเนื่อง ได้แก่ โครงการขยายระบบขนส่งน้ำมันทางท่อไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ทีพีเอ็น) โครงการพัฒนานิคมอุตสาหกรรม เอ็กโกระยอง ตลอดจนยังได้รับใบอนุญาตจัดหาและค้าส่งก๊าซธรรมชาติในประเทศไทย บริษัทเทคโนโลยีด้านการเงิน (เพียร์ พาวเวอร์) บริษัทด้านการวิจัยเพื่อพัฒนานวัตกรรม (อินโนพาวเวอร์) เอ็กโก กรุ๊ป ได้รับการจัดอันดับอยู่ใน Dow Jones Sustainability Index (DJSI) มา 3 ปีต่อเนื่อง และตั้งเป้าบรรลุ Net Zero ภายในปี 2050