นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ประธานกรรมการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวถึงการเมืองในประเทศไทย โดยจะสังเกตได้ว่านโยบายเศรษฐกิจเป็นนโยบายเรือธงสำคัญของทุกพรรคการเมือง ซึ่งในระยะสั้นเมื่อสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้แล้ว จะเป็นพัฒนาการที่ดีสำหรับตลาดการเงิน และระบบเศรษฐกิจ โดยจะเห็นกลไลการทำงานของภาครัฐไม่ว่าจะเป็นการจัดตั้งงบประมาณ การบริหารราชการแผ่นดิน เดินหน้าต่อไปได้ และหวังว่ารัฐบาลที่จะเข้ามาบริหารจะสร้างนโยบายที่มุ่งเน้นการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและมาตรการที่สนับสนุนการลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ
อย่างไรก็ตามในระยะถัดไป สิ่งที่รัฐบาลควรทำเป็นอย่างยิ่ง คือการสร้างเสถียรภาพในการทำงานและสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชน โดยเฉพาะการให้ความสำคัญกับเรื่องนิติธรรม การมีส่วนร่วมของประชาชนอย่างแท้จริง การรักษาสัจจะ หรือว่าความตรงไปตรงมา ความโปร่งใส ซึ่งเป็นหลักพื้นฐานในเรื่องการปกครอง การอยู่ร่วมกันของสังคม ซึ่งรัฐบาลต้องหาทางช่วยกันปรับปรุงแก้ไขเพื่อเสถียรภาพอย่างยั่งยืน
นอกจากนี้มองว่านโยบายประชานิยมเป็นเรื่องที่ดี โดยเฉพาะนโยบายที่ดีสำหรับประชาชน แต่ต้องคำนึงถึงประโยชน์ระยะยาวด้วย ซึ่งภาพรวมทั้งสถานการณ์ในประเทศและต่างประเทศยังมีความไม่แน่นอนอยู่และมีความเสี่ยงค่อนข้างสูง ในเวลานี้การดำเนินนโยบายทางเศรษฐกิจ จะให้น้ำหนักไปที่การรักษาความเชื่อมั่น หรือการรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ เนื่องจากในช่วงที่มีเหตุการณ์ที่ไม่แน่นอน นักลงทุนจะกังวลเรื่องความเสี่ยง ดังนั้นจึงต้องพยายามสร้างความเชื่อมั่น
นายประสาร กล่าวถึงประเด็นข้อกล่าวหา นายเศรษฐา ทวีสิน ว่าที่นายกรัฐมนตรีและอดีตผู้บริหาร บมจ.แสนสิริ (SIRI) จากการทำนิติกรรมอำพรางในการซื้อขายที่ดินและการหลบเลี่ยงภาษี ว่าปัญหาธรรมาภิบาลเป็นเรื่องสำคัญ แต่ว่าในวงการธุรกิจจะมีสิ่งที่เรียกว่า วิธีปฏิบัติซึ่งต่างฝ่ายต่างรักษาผลประโยชน์ของตัวเอง ดังนั้นเรื่องนี้จึงเป็นเรื่องของแนวปฏิบัติที่เหมาะสม แน่นอนว่าตลาดหลักทรัพย์ก็ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ โดยพยายามส่งเสริมเรื่องความโปร่งใส และความตรงไปตรงมา