SET ปิดเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,560.89 จุด เพิ่มขึ้น 11.88 จุด (+0.77%) มูลค่าซื้อขายราว 37,420 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯ เผยตลาดหุ้นไทยช่วงเช้าปรับตัวขึ้นรับปัจจัยบวกต่างประเทศ ตลาดสินทรัพย์เสี่ยงของโลกปรับขึ้น เงินดอลลาร์อ่อนค่า Bond Yield ลดลง หลังตัวเลข PMI สหรัฐชะลอคาดหวังเฟดส่งสัญญาณไม่ Hawkish และในประเทศ รอติดตามโผ ครม. แนวโน้มข่วงบ่ายน่าจะขึ้นได้ต่อ ให้แนวต้าน 1,571 จุด แนวรับ 1,555 จุด
ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดช่วงเช้าวันนี้ 1,560.89 จุด เพิ่มขึ้น 11.88 จุด (+0.77%) มูลค่าซื้อขายราว 37,420 ล้านบาท
การซื้อขายช่วงเช้า ดัชนีดีดตัวขึ้นได้ตลอดช่วงเช้าโดยทำระดับสูงสุด 1,563.44 จุด และต่ำสุด 1,552.97 จุด
นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.กรุงศรี พัฒนสิน กล่าวว่าตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งตัวขึ้นรับภาพบวกสินทรัพย์เสี่ยงปรับตัวขึ้น หลังจากตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ของสหรัฐชะลอตัวลงในเดือน ส.ค.จึงคาดว่านโยบายการเงินเข้มงวดถึงจุดสิ้นสุด และคาดหวังถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐในงานประจำปีที่แจ็คสันโฮลวันที่ 25 ส.ค.นี้มีโอกาสไม่แข็งกร้าว (Hawkish) นอกจากนี้เงินดอลลาร์ก็อ่อนค่าลง อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐระยะยาวก็ลดลงด้วย เป็นปัจจัยหนุนตลาดหุ้น
ขณะเดียวกันปัจจัยในประเทศก็ยังเป็นบวก แม้ว่าตลาดยังรอติดตามโผคณะรัฐมนตรี (ครม.) และผู้ที่จะมานั่งเก้าอี้ รมว.คลัง
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายน่าจะยังขึ้นไปได้ต่อ โดยให้แนวต้าน 1,571 จุด แนวรับ 1,555 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
DELTA มูลค่าการซื้อขาย 2,379.23 ล้านบาท ปิดที่ 111.00 บาท เพิ่มขึ้น 7.00 บาท
EA มูลค่าการซื้อขาย 1,842.01 ล้านบาท ปิดที่ 63.25 บาท เพิ่มขึ่น 2.25 บาท
KCE มูลค่าการซื้อขาย 1,288.98 ล้านบาท ปิดที่ 50.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท
HANA มูลค่าการซื้อขาย 1,277.74 ล้านบาท ปิดที่ 63.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
KTB มูลค่าการซื้อขาย 1,169.80 ล้านบาท ปิดที่ 19.60 บาท ลดลง 0.40 บาท