นางสาววิมลมาลย์ กฤษณะกลิน รองผู้อำนวยการฝ่ายการเงินและนักลงทุนสัมพันธ์ บมจ.บางกอก เชน ฮอสปิทอล (BCH) กล่าวว่าในไตรมาส 3/67 ผลประกอบการบริษัทจะดีกว่าช่วงครึ่งปีแรก เนื่องจากเป็นช่วง High season ของธุรกิจโรงพยาบาล มีโรคระบาดตามฤดูกาลค่อนข้างมาก รวมทั้งสามารถรับรู้รายได้จากผู้ป่วยต่างชาติโดยเฉพาะผู้ป่วยตะวันออกกลางเพิ่มมากขึ้นหลังจากในไตรมาส 2/66 เป็นเทศกาลรอมฎอนทำให้ผู้ป่วยตะวันออกกลางลดลง
นอกจากนี้ การปรับอัตราค่าบริการเหมาจ่ายรายหัวจากสำนักงานประกันสังคมเพิ่มขึ้นคนละ 1,808 บาทต่อปี การขยายระยะเวลาโครงการความร่วมมือในการเพิ่มประสิทธิภาพการรักษาด้วยการผ่าตัด 5 กลุ่มโรค ได้แก่ หัตถการโรคหัวใจและหลอดเลือด โรคหลอดเลือดสมอง โรคมะเร็งเต้านม โรคก้อนเนื้อที่มดลูก และโรคนิ่วในไตหรือถุงน้ำดี ให้แก่ผู้ประกันตน ซึ่งโรงพยาบาลจะได้รับอัตราค่ารักษาพยาบาลต่อ RW ที่เพิ่มขึ้นตามความรุนแรงของโรค จากเดิมได้รับประมาณ 12,000 บาทต่อ DRG เป็น 15,000 บาทต่อ DRG ส่งผลให้บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้น
สำหรับความคืบหน้าแผนการขยายโรงพยาบาลที่อยู่ระหว่างการดำเนินการก่อสร้างจำนวน 2 แห่ง ได้แก่ ศูนย์มะเร็งรังสีรักษา เกษมราษฎร์อารี จังหวัดนนทบุรี ปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้าง โดยคาดว่าจะเปิดให้บริการภายในปี 67 โดยช่วงแรกจะรับคนไข้ประกันสังคมเป็นหลัก และโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ สุวรรณภูมิ จังหวัดสมุทรปราการ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการปรับปรุงที่ดิน และยื่นขอรับการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) คาดว่าจะเริ่มสร้างภายในไตรมาส 1/67 และเปิดให้บริการภายในปี 67
ไตรมาส 2/66 บริษัทมีรายได้รวม 2,872.1 ล้านบาท ลดลง 48.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) และสูงกว่าไตรมาส 2/62 32.7% ซึ่งมีรายได้รวม 2,164.9 ล้านบาท เนื่องจากการกลับเข้ามารับการรักษาพยาบาลของผู้ป่วยทั่วไป รวมถึงการปรับอัตราค่าบริการเหมาจ่ายรายหัวของผู้ประกันตน
อย่างไรก็ตามอัตราแลกเปลี่ยนเงินสกุลกีบที่อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องของโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล เวียงจันทน์ ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A) ที่เกิดจากรายการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มสูงขึ้น โดยในไตรมาส 2/66 มีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 63.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1/66 ซึ่งอยู่ที่ 15.6 ล้านบาท